คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5586/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้แก่โจทก์ ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยึดอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจดิสโก้เธค ที่บ้านเลขที่ 1857 ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ดำเนินธุรกิจดิสโก้เธค ไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาเมื่อยึดแล้วผู้ร้องที่ 1 และที่ 2 ได้ขอเข้าดำเนินธุรกิจดิสโก้เธค ในสถานที่ดังกล่าวต่อไป ศาลชั้นต้นอนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่าผู้ร้องที่ 1 และที่ 2 ต้องชำระค่าตอบแทนเดือนละ 200,000 บาท โดยนำมาวางไว้ต่อศาลเพื่อประโยชน์ของคู่ความ ดังนี้ เงินค่าตอบแทนดังกล่าวจึงเป็นการมุ่งที่จะให้เป็นค่าตอบแทนในการที่ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องที่ 1และที่ 2 เข้าดำเนินธุรกิจสถานดิสโก้เธค ซึ่งย่อมต้องอาศัยอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่ในสถานดิสโก้เธค นั้นเป็นหลักหาได้มุ่งถึงค่าตอบแทนในการใช้อาคารและที่ดินด้วยไม่ดังนั้น ไม่ว่าผู้ร้องที่ 3 จะเป็นผู้จะซื้อที่ดินที่ตั้งสถานดิสโก้เธค หรือไม่ก็ตาม ผู้ร้องที่ 3 ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอรับเงินค่าตอบแทนนี้ไปจากศาลได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งห้าให้ชำระหนี้แก่โจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยทั้งห้าไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาที่บ้านเลขที่ ๑๘๕๗ ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ดำเนินธุรกิจดิสโก้เธคเมื่อยึดแล้วผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ ขอเข้าดำเนินธุรกิจดิสโก้เธคในสถานที่ดังกล่าว โดยขอให้ทรัพย์ที่ถูกยึดซึ่งเป็นอุปกรณ์ตกแต่งในสถานดิสโก้เธค ต่อไป ศาลชั้นต้นอนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่าผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ จะต้องชำระค่าตอบแทนเดือนละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยนำมาวางไว้ต่อศาลเพื่อประโยชน์ของคู่ความพร้อมทั้งให้วางหลักทรัพย์ค้ำประกันการชำระค่าตอบแทนดังกล่าวด้วย ต่อมาโจทก์และจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวในคดีล้มละลายเรื่องอื่น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงเข้ามาดำเนินคดีนี้แทนโจทก์และจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ที่ ๓ ที่ ๔ ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๒๙ให้จำเลยที่ ๑ ชำระหนี้แก่โจทก์ ส่วนจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔และที่ ๕ ให้ยกฟ้อง คดีถึงที่สุด
ในระหว่างที่ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธค ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ ได้นำเงินค่าตอบแทนมาวางศาล๒๐๐,๐๐๐ บาท เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๒๙ ต่อมาเมื่อวันที่๕ สิงหาคม ๒๕๒๙ ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ ยื่นคำร้องว่า คดีนี้ถึงที่สุดโดยโจทก์แพ้คดีแก่จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ และที่ ๕ คำสั่งของศาลที่ให้ยึดทรัพย์ของจำเลยทั้งห้าไว้ชั่วคราวตลอดจนคำสั่งศาลที่ให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธคจึงเป็นอันยกเลิกไปด้วย ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ จึงไม่ต้องนำเงินค่าตอบแทนมาวางศาลอีกต่อไป ส่วนค่าตอบแทนที่ได้วางศาลไว้แล้ว๒๐๐,๐๐๐ บาท นั้น ขอให้สั่งคืนแก่ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ ด้วย
ผู้ร้องที่ ๓ ยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องที่ ๓ ได้ทำสัญญาจะซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๓๓๙๙ และ ๔๓๔๐๐ อันเป็นสถานที่ตั้งดิสโก้เธคที่ศาลสั่งให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ เข้าดำเนินการจากนายจตุพรสีหนาทกถากุล เจ้าของกรรมสิทธิ์ซึ่งตามสัญญาจะซื้อขายผู้ร้องที่ ๓ มีสิทธิครอบครองใช้สอยที่ดินดังกล่าว และเป็นเจ้าของอาคารที่ปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวด้วย เมื่อศาลสั่งให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ เข้าดำเนินกิจการสถานดิสโก้เธค ในอาคารและที่ดินที่ผู้ร้องที่ ๓ มีสิทธิครอบครองเช่นนี้ ผู้ร้องที่ ๓ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับค่าตอบแทนที่ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ นำมาวางไว้ต่อศาล ขอให้ศาลสั่งให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธค และให้ผู้ร้องที่ ๒ รับเงินค่าตอบแทนที่ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ นำมาวางไว้ต่อศาลแล้วและค่าตอบแทนที่จะวางในเดือนต่อ ๆ ไปจนกว่าผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒จะได้ออกไปจากอาคารและที่ดินดังกล่าว
ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องของผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ ว่า ผู้ร้องที่ ๑ที่ ๒ ได้เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธค ตั้งแต่วันที่๘ เมษายน ๒๕๒๙ ตลอดมา แต่วางเงินค่าตอบแทนต่อศาลไว้เพียง๒๐๐,๐๐๐ บาท ถือว่าได้วางเงินค่าตอบแทนสำหรับเดือนเมษายน ๒๕๒๙แต่ศาลได้พิพากษาคดีนี้เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๒๙ โดยมิได้กำหนดวิธีการชั่วคราวไว้ในคำพิพากษาถือว่าวิธีการชั่วคราวดังกล่าวเป็นอันยกเลิก ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ มีความรับผิดจะต้องนำเงินมาวางตามคำสั่งศาลจนถึงวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๒๙ แต่ผู้ร้องที่ ๑ที่ ๒ นำเงินมาวางเพียงเดือนเดียวคือเดือนเมษายน ๒๕๒๙ส่วนเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน ๒๕๒๙ มิได้นำมาวาง จึงให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ นำเงินประจำเดือนดังกล่าวเดือนละ ๒๐๐,๐๐๐ บาทมาวางต่อศาลภายใน ๑ เดือน นับแต่วันมีคำสั่ง และศาลชั้นต้นสั่งคำร้องของผู้ร้องที่ ๓ ว่า ที่ผู้ร้องที่ ๓ ขอรับเงินค่าตอบแทนที่ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ นำมาวางไว้ต่อศาลนั้น เห็นว่าผู้ร้องที่ ๓ไม่มีสิทธิที่จะรับไป ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ วางเงินค่าเช่า (ที่ถูกเป็นค่าตอบแทน)๔๐๐,๐๐๐ บาท กับให้คืนหลักทรัพย์ประกันแก่ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒และให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่ ๓ให้ทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องที่ ๓ แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ผู้ร้องที่ ๓ มีสิทธิจะขอรับเงินค่าตอบแทนที่ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒นำมาวางไว้ต่อศาลหรือไม่ ข้อเท็จจริงปรากฏตามท้องสำนวนว่าสถานดิสโก้เธค ที่ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ เข้าดำเนินกิจการนี้ จำเลยทั้งห้าได้ให้ผู้ร้องที่ ๑ เป็นผู้ดำเนินกิจการอยู่ก่อนแล้ว ต่อมาเมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์สินต่าง ๆ คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจสถานดิสโก้เธคแห่งนี้ไว้ชั่วคราวคู่ความเห็นว่า น่าจะเกิดความเสียหายแก่คู่ความทั้งสองฝ่ายเพราะอุปกรณ์ที่ถูกยึดไว้ดังกล่าวมีราคาสูงมาก การขนไปเก็บไว้จะเสียหายได้ง่าย ทั้งยังจะได้ผลประโยชน์ที่ได้จากการดำเนินการมาวางศาลไว้เพื่อประโยชน์ของคู่ความ ต่างฝ่ายต่างจึงเสนอขอให้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเปิดดำเนินกิจการสถานดิสโก้เธคต่อไปในที่สุดศาลจึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ เป็นผู้เข้าดำเนินกิจการโดยให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ เสียค่าตอบแทนเดือนละ ๒๐๐,๐๐๐ บาทจากข้อเท็จจริงดังกล่าว เห็นได้ว่าเงินค่าตอบแทนเดือนละ๒๐๐,๐๐๐ บาท ที่ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ ต้องนำมาวางศาลนั้นเป็นการมุ่งที่จะให้เป็นค่าตอบแทนในการที่ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒เข้าดำเนินธุรกิจสถานดิสโก้เธคต่อไปเหมือนเดิมก่อนที่อุปกรณ์ที่ใช้ในสถานดิสโก้เธคจะถูกยึด ซึ่งสาระสำคัญของการดำเนินธุรกิจประเภทนี้ย่อมต้องอาศัยอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่ภายในสถานที่นั้นเป็นหลัก และอุปกรณ์ดังกล่าวก็คือทรัพย์สินต่าง ๆของจำเลยทั้งห้าที่ถูกศาลสั่งยึดไว้ชั่วคราวนั่นเอง ฉะนั้นค่าตอบแทนเดือนละ ๒๐๐,๐๐๐ บาทนี้ จึงเป็นค่าตอบแทนในการที่ได้ใช้ทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้ในคดีนี้เป็นสำคัญ หาได้มุ่งถึงค่าตอบแทนในการใช้อาคารและที่ดินด้วยไม่ เพราะขณะที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ เข้าดำเนินกิจการนั้น ได้ความว่าที่ดินและอาคารดังกล่าว จำเลยที่ ๔ มีสิทธิครอบครองใช้สอยอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นศาลจึงมีอำนาจที่จะให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒เข้าไปดำเนินธุรกิจสถานดิสโก้เธคโดยใช้อุปกรณ์ที่ถูกยึดไว้ได้การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธคจึงหาใช่เป็นการเอาอาคารและที่ดินซึ่งมิใช่ทรัพย์ที่ถูกยึดออกให้เช่าดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ ฉะนั้นไม่ว่าผู้ร้องที่ ๓จะเป็นผู้จะซื้อที่ดินที่ตั้งสถานดิสโก้เธคนี้จริงหรือไม่ก็ตาม ผู้ร้องที่ ๓ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอรับเงินค่าตอบแทนนี้ไปจากศาลได้
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ที่ ๓ และที่ ๔ ว่า ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ ต้องชำระค่าตอบแทนประจำเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ๒๕๒๙ หรือไม่ ได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธคเป็นคำสั่งที่ชอบ ดังนั้นผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒จึงยังคงมีความผูกพันต้องชำระค่าตอบแทนในการเข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธคจนถึงเดือนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒ ยังค้างชำระค่าตอบแทนเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน ๒๕๒๙ ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจสั่งให้ผู้ร้องที่ ๑ ที่ ๒นำเงินค่าตอบแทนดังกล่าวจำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท มาวางศาลได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น

Share