แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์เป็นลูกจ้างและเป็นพนักงานขายของจำเลย ได้ขายสินค้าของจำเลยให้แก่ลูกค้า แล้วเรียกเก็บเงินไม่ได้ โจทก์จึงทำบันทึกตกลงให้จำเลยเรียกร้องเงินค่าสินค้าของลูกค้าดังกล่าวจากโจทก์โดยให้ถือว่าโจทก์ได้รับชำระเงินจากลูกค้ารายนี้แล้ว หนี้ดังกล่าวจึงเป็นหนี้ที่เกิดจากการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างแรงงาน มิใช่หนี้อื่นตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 30 จำเลยนำหนี้รายนี้มาหักจากค่าจ้างที่ต้องจ่ายให้แก่โจทก์ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองเป็นนายจ้างโจทก์ จำเลยที่ ๒ ได้หักเงินเดือนของโจทก์ชดใช้ราคาสินค้าที่จำเลยที่ ๑ เรียกเก็บจากลูกค้าไม่ได้ไป ๗๘,๐๐๐ บาท และเดือนมีนาคม ๒๕๓๑ จำเลยไม่จ่ายเงินเดือนและรายได้ต่าง ๆ ให้โจทก์จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม โจทก์มีสิทธิได้รับค่าเสียหาย ค่าชดเชย เงินเดือนอีก ๑ เดือนในการบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนเลิกจ้าง ขอให้จำเลยชดใช้เงินรวม ๒๓๗,๒๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยที่ ๑ หักเงินโจทก์ไป ๖๐,๔๘๖ บาท และเป็นหนี้ที่เกี่ยวกับการทำงาน เพราะโจทก์ขายสินค้าให้ลูกค้าแล้วเก็บเงินไม่ได้โจทก์จึงทำบันทึกตกลงให้จำเลยที่ ๑ เรียกเก็บเงินดังกล่าวจากโจทก์แทน จำเลยมิได้เลิกจ้างโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์ แต่ไม่เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมจำเลยที่ ๑ นำหนี้ที่โจทก์ทำบันทึกตกลงไว้มาหักจากค่าจ้างได้ เพราะเป็นหนี้ที่เกิดจากการทำงาน พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ จ่ายค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า หนี้ที่จำเลยที่ ๑ นำมาหักจากค่าจ้างของโจทก์นั้น ศาลแรงงานฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นหนี้ที่เกิดจากการที่โจทก์ขายสินค้าของจำเลยที่ ๑ ให้แก่โรงเรียนอนุบาลภูเก็ต แล้วเรียกเก็บเงินไม่ได้ โจทก์นำบันทึกตกลงไว้ว่าให้จำเลยที่ ๑ เรียกร้องเงินค่าสินค้ารายนี้จากโจทก์ทุก ๆ ๒ เดือนต่อ ๑ ใบเสร็จรับเงินโดยให้ถือว่าพนักงานขายได้รับชำระเงินจากลูกค้ารายนี้แล้ว และใบเสร็จทุกฉบับถ้าพนักงานขายเรียกเก็บเงินได้ ก็ไม่ต้องนำส่งบริษัท จากข้อเท็จจริงดังกล่าวถือได้ว่าหนี้รายนี้เป็นหนี้ที่เกิดจากการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างแรงงานระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ โดยตรง หาใช่หนี้อื่นตามความหมายแห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๑๔ ข้อ ๓๐ ไม่ จำเลยที่ ๑ จึงมีสิทธินำหนี้รายนี้มาหักจากค่าจ้างที่ต้องจ่ายให้แก่โจทก์ได้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวไม่ตกเป็นโมฆะ
พิพากษายืน.