แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทรัพย์พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์ แม้โจทก์จะได้รับมรดกในระหว่างอยู่กินฉันสามีภรรยากับจำเลยก็ตาม แต่เมื่อการอยู่กินฉันสามีภริยานั้นไม่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย จำเลยก็ไม่มีส่วนเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทร่วมกับโจทก์ เพราะการที่โจทก์ได้รับมรดกย่อมไม่ใช่ทรัพย์ที่โจทก์และจำเลยร่วมหากันมา
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1128/2506)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์โดยได้รับมรดกจากบิดา โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากันแต่มิได้จดทะเบียนสมรส จำเลยได้ไปแจ้งลงชื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท ส่วนกระบือพิพาทจำเลยก็ได้ทำบัญชีสัตว์ที่ยังไม่ได้ทำตั๋วรูปพรรณติดชื่อจำเลยเป็นเจ้าของ ต่อมาจำเลยได้ขายกระบือ ๑ ตัว และนำกระบือไปจากไว้ที่บ้านเดิมของจำเลย โจทก์เรียกกระบือกลับคืนและขับไล่จำเลยออกไปจากเรือนของโจทก์ จำเลยกลับโต้แย้งว่าทรัพย์พิพาทเป็นของจำเลย ขอให้พิพากษาว่าทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ ให้ขับไล่จำเลย ให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจาก ส.ค.๑ และบัญชีสัตว์ที่ยังไม่ได้ทำตั๋วรูปพรรณตามฟ้องแล้วใส่ชื่อโจทก์แทน
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นภริยาจำเลยมา ๓๐ ปีแล้ว ทรัพย์พิพาทได้มาระหว่างเป็นสามีภริยากัน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า ทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์โดยรับมรดกจากบิดา แต่เนื่องจากโจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากันและโจทก์ยินยอมให้จำเลยแจ้งการครอบครองที่พิพาทและใส่ชื่อจำเลยในบัญชีสัตว์ที่ยังไม่ได้ทำตั๋วรูปพรรณ ถือได้ว่าโจทก์กับจำเลยเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทร่วมกัน พิพากษาให้แบ่งทรัพย์พิพาทให้โจทก์กึ่งหนึ่ง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า ทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์โดยรับมรดกมาจากบิดา โจทก์มอบให้จำเลยแจ้งการครอบครองที่พิพาทและใส่ชื่อจำเลยในบัญชีสัตว์ที่ยังไม่ได้ทำตั๋วรูปพรรณแทน จำเลยไม่ได้สิทธิในทรัพย์พิพาท พิพากษาแก้ เป็นว่า ทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ฝ่ายเดียว ให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจากทรัพย์พิพาทและใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า ทรัพย์พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์ แม้โจทก์จะได้รับมรดกในระหว่างอยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยก็ตาม เมื่อการอยู่กินฉันสามีภริยานั้นไม่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย จำเลยก็ไม่มีส่วนเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทร่วมกับโจทก์ เพราะการที่โจทก์ได้รับมรดกย่อมไม่ใช่ทรัพย์ที่โจทก์กับจำเลยร่วมกันหามา ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๒๘/๒๕๐๖ ส่วนคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๗/๒๕๐๑ ที่ศาลชั้นต้นอ้างและจำเลยยกขึ้นฎีกา ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้
พิพากษายืน