คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2930/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ซึ่งห้ามล้อเท้าใช้ไม่ได้ ถือเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องอุปกรณ์ไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวง ทั้งได้ขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ตามพระราชบัญญัติรถยนต์มาด้วย แต่บรรยายไว้เป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายอันเนื่องมาจากจำเลยได้ขับรถยนต์ซึ่งห้ามล้อเท้านั้นใช้ไม่ได้ ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกฎหมายหลายบทมิใช่หลายกระทง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังได้ขับรถยนต์บรรทุกซึ่งห้ามล้อเท้าใช้ไม่ได้ ถือเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องอุปกรณ์ไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวงแล่นไปตามถนนด้วยความเร็วสูงไม่ให้สัญญาณแตร เมื่อเห็นคนยืนอยู่ริมถนนเป็นจำนวนมากทำให้รถที่จำเลยขับชนนางสาวทองเพียรจิตรีทรง ซึ่งกำลังเดินอยู่ริมถนนได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กาย และเมื่อจำเลยกระทำความผิดแล้วได้หลบหนีไปไม่หยุดรถทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บตามสมควรทั้งไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๙๐ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๔๗๓ มาตรา ๕, ๓๒ พระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๓ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๔๗๗ มาตรา ๒๙, ๓๐, ๖๖, ๖๘ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๘ มาตรา ๗, ๑๓, ๑๕ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๙ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๑๕ ข้อ ๖, ๑๑, ๑๓ และสั่งถอนใบอนุญาตขับรถยนต์ของจำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๔๗๗ มาตรา ๓๐, ๖๖ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๘ มาตรา ๑๓, ๑๕ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๙ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ข้อ ๖, ๑๑, ๑๓ ให้จำคุก ๒ เดือน และมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๔๗๓ มาตรา ๕, ๓๒ พระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๓ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๔๗๗ มาตรา ๒๙, ๓๐, ๖๖, ๖๘ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๘มาตรา ๗, ๑๓, ๑๕ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๙ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ข้อ ๖, ๑๑, ๑๓ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๐ฟ้องของโจทก์บรรยายไว้เป็นกรรมเดียวให้ลงโทษบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๐ ประกอบด้วยมาตรา ๙๐ ให้ปรับ ๔๐๐ บาท รวมเป็นจำคุก ๒ เดือน ปรับ ๔๐๐ บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑ เดือน ปรับ ๒๐๐ บาท กับให้เพิกถอนใบขับขี่รถยนต์ของจำเลย
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานขับรถยนต์ที่มีเครื่องอุปกรณ์ไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติรถยนต์อีกกระทงหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ฟ้องโจทก์ได้บรรยายฐานความผิดของจำเลยไว้ด้วยว่า จำเลยขับรถยนต์ซึ่งห้ามล้อเท้าใช้ไม่ได้ ถือเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องอุปกรณ์ไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวง ทั้งได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามความผิดฐานนี้ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๔๗๓ มาตรา ๕, ๓๒ พระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๓ และจำเลยก็ได้ให้การรับสารภาพผิดฐานนี้ด้วยแล้วก็ดี แต่ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์บรรยายไว้เป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานประมาท เพราะโจทก์ได้บรรยายการกระทำผิดของจำเลยที่เป็นความผิดฐานประมาทเนื่องมาจากจำเลยได้ขับรถยนต์ซึ่งห้ามล้อเท้าใช้ไม่ได้ โจทก์มิได้บรรยายฟ้องแยกให้เห็นเป็นอีกกระทงหนึ่งต่างหากจากการประมาท การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดกฎหมายหลายบท
อนึ่ง ศาลฎีกาเห็นว่าศาลล่างทั้งสองพิพากษาปรับบทลงโทษจำเลยคลาดเคลื่อนจึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๔๗๗ มาตรา ๓๐, ๖๘ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๘ มาตรา ๑๕ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๕๙ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ข้อ ๖, ๑๓ กระทงหนึ่ง และจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๔๗๓ มาตรา ๕, ๓๒ พระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๓ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๔๗๗ มาตรา ๒๙, ๖๖ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๘ มาตรา ๗, ๑๓ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๙ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ข้อ ๑๑ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๐ อีกกระทงหนึ่ง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share