คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1669/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พนักงานเดินหมายของศาลได้นำหมายกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไปส่งให้แก่จำเลย บุคคลในสำนักงานทนายความของทนายจำเลย ซึ่งอายุเกิน 20 ปีได้รับหมายนัดไว้แทนทนายจำเลยต้องถือว่าจำเลยได้รับหมายนัดโดยชอบแล้ว
จำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลจึงสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา และได้ดำเนินการพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียวแล้ว จำเลยจะมาขอให้มีการพิจารณาใหม่ โดยอ้างเหตุว่ามิได้จงใจขาดนัด เพราะบุคคลที่รับหมายไว้แทนมิได้บอกให้ทราบ หาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้ทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีไว้กับโจทก์ ๒ บัญชี จำเลยที่ ๒ ได้ทำสัญญาจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้กับโจทก์ เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้เบิกเงินเกินบัญชีของจำเลยที่ ๑ ต่อมาจำเลยที่ ๑ ได้เบิกเงินเกินบัญชีไปจากโจทก์ รวมเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งสองบัญชีคิดคำนวณถึงวันฟ้องเป็นเงินทั้งสิ้น ๘๙๙,๓๕๕.๒๐ บาท โจทก์ได้ทวงถามและบอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยแล้ว จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยตามคำขอท้ายฟ้องแก่โจทก์ ถ้าหากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์ที่จำนองออกขายทอดตลาดบังคับชำระหนี้
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า เมื่อครบกำหนดตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีแล้วโจทก์มิได้หักทอนบัญชีกับจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ ไม่ต้องรับผิดในหนี้สินจำนวนที่เกินมานั้น และมิได้รับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งประกาศหนังสือพิมพ์เพื่อให้จำเลยที่ ๑ ยื่นคำให้การและนัดชี้สองสถานกับนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การ
วันนัดชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นสั่งงดชี้สองสถาน ให้นัดสืบพยานโจทก์พนักงานเดินหมายได้นำหมายกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไปส่งให้แก่ทนายจำเลยที่ ๒ ที่สำนักงานทนายความ แต่ไม่พบนายชำนาญ บำรุงสุข อายุประมาณ ๒๗ ปี ซึ่งอยู่ในสำนักงานทนายความดังกล่าวได้รับหมายไว้แทน
วันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยทั้งสองไม่มาศาล ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณา และดำเนินการสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินให้แก่โจทก์เต็มตามฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดเพราะไม่ทราบกำหนดนัด นายชำนาญ บำรุงสุข มิได้แจ้งเรื่องรับหมายนัดไว้แทนให้ทนายจำเลยที่ ๒ ทราบ กับมีข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกาศาลฎีกาเห็นว่า พนักงานเดินหมายได้นำหมายกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไปส่งให้แก่จำเลยที่ ๒ นายชำนาญ บำรุงสุข ซึ่งอยู่ในสำนักงานทนายความของทนายจำเลยที่ ๒ ได้รับหมายนัดของศาลไว้แทนทนายจำเลยที่ ๒ แล้ว จึงต้องฟังว่าจำเลยที่ ๒ ได้รับหมายกำหนดวันนัดสืบพยานของศาลไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว และวินิจฉัยว่าที่จำเลยที่ ๒ อ้างว่านายชำนาญ บำรุงสุข มิได้บอกเรื่องรับหมายนัดไว้แทนให้ทนายจำเลยที่ ๒ ทราบนั้น ไม่พอถือเอาเป็นเหตุที่จำเลยที่ ๒ จะนำมาอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณาและขอให้มีการพิจารณาใหม่ได้ เพราะเป็นความผิดของคนในสำนักงานของทนายจำเลยที่ ๒ เอง และกรณีเช่นนี้ไม่พอฟังว่ามีเหตุอันสมควรที่จำเลยที่ ๒ มาศาลไม่ได้ดังที่ฎีกา ที่ศาลล่างทั้งสองให้ยกคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ ๒ นั้น ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ ๒ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้จำเลยที่ ๒ ใช้ค่าทนายความชั้นฎีกาแทนโจทก์ ๑๐๐ บาท

Share