แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยยิงผู้เสียหายในระยะห่าง 2 วา มีบาดแผลบริเวณใบหน้าและหัวไหล่ขวา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 มิลลิเมตร แผลที่ใบหน้ามี 12 แผล มีเลือดซึมเล็กน้อย และที่หัวไหล่มี 7 แผลบาดแผลแต่ละแห่งมีกระสุนเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตรฝังใต้ผิวหนัง แพทย์ลงความเห็นว่าอาจจะหายภายใน 10-14 วันผู้เสียหายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 10 วันเศษแสดงว่า เป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้ความว่าถ้าผู้เสียหายไม่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันท่วงทีอาจถึงชีวิตได้ ย่อมแสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงไม่อาจทำให้ผู้เสียหายถูกยิงถึงตายได้ แม้จะถูกอวัยวะสำคัญของร่างกาย ดังนี้ กรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 81
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐
จำเลยให้การว่าได้ยิงผู้เสียหายจริง แต่กระทำไปเพื่อป้องกันตัว
ผู้เสียหายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกระทำเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ ลงโทษจำคุกจำเลย ลดโทษแล้วคงจำคุก ๖ ปี ๘ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยยิงผู้เสียหายมิใช่เป็นการป้องกันตัวแล้วฟังข้อเท็จจริงต่อไปว่า คดีนี้จับปืนของกลางไม่ได้และในชั้นพิจารณาก็ไม่ปรากฏว่าปืนนั้นเป็นปืนอะไร แต่ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การว่าปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนลูกซองพกทำในประเทศไทย ขนาดเบอร์ ๑๒ ตามรายงานการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้องปรากฏว่า ลักษณะบาดแผลบริเวณใบหน้าด้านขวาและหัวไหล่ขวามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ๓ มิลลิเมตร บาดแผลบริเวณใบหน้าด้านขวามี ๑๒ แผลมีเลือดซึมเล็กน้อยและบริเวณหัวไหล่มี ๗ แผล บาดแผลแต่ละแห่งมีกระสุนเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ มิลลิเมตร ฝังใต้ผิวหนัง อาจจะหายภายใน ๑๐ – ๑๔ วันผู้เสียหายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ๑๐ วันเศษ แสดงว่าเป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จำเลยยิงผู้เสียหายห่างราว ๒ วา แม้จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่เมื่อบาดแผลผู้เสียหายมีเพียงเล็กน้อย และไม่ได้ความว่าถ้าผู้เสียหายไม่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันท่วงทีอาจถึงชีวิตได้ ย่อมแสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงไม่อาจทำให้ผู้เสียหายถูกยิงถึงตายได้ แม้จะถูกอวัยวะสำคัญของร่างกาย ทั้งไม่อาจจะชี้ขาดไปได้ว่าอาวุธปืนและกระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงมีกำลังแรงพอที่จะทำให้ผู้เสียหายถึงตายได้ เพราะถ้าเป็นอาวุธปืนที่มีกำลังแรงสามารถทำให้ผู้ถูกยิงถึงตายได้แล้ว กระสุนปืนที่ยิงไปก็น่าจะทะลุถึงกระดูก ไม่ฝังอยู่เพียงใต้ผิวหนังอย่างแน่นอนกรณีจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๑ โดยถือว่าจำเลยกระทำการโดยมุ่งต่อผลซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดแต่การกระทำนั้นไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำผิด
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๑ ให้จำคุกจำเลย ๔ ปี