คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์ให้โจทก์ติดต่อติดตามเพื่อให้ทางราชการอนุญาตให้ทำการขนไม้ที่จำเลยตัดฟันไว้ในป่าออกสู่ตลาดได้ตามสัญญามิได้มีวัตถุประสงค์ให้โจทก์ใช้อิทธิพลวิ่งเต้นหรือเข้าแทรกแซงในกิจการของทางราชการ เพื่ออนุญาตให้จำเลยทำการขนหรือชักลากไม้ออกจากป่า โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบแบบแผนของทางราชการแต่อย่างใด เป็นการทำไปตามสิทธิและหน้าที่ในฐานะผู้รับจ้างทำแทนจำเลยซึ่งมีสิทธิอยู่แล้วโดยชอบเท่านั้น สัญญานี้จึงไม่มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ให้ดำเนินการเพื่อให้ทางราชการกรมป่าไม้อนุญาตให้จำเลยทำการชักลากไม้ออกจากป่าจังหวัดหนองคายสู่ตลาด โจทก์ติดต่อดำเนินการจนทางราชการกรมป่าไม้อนุญาต จำเลยกลับผิดสัญญาไม่จ่ายเงินค่าจ้างให้โจทก์ โจทก์ให้ทนายทวงถามแล้ว จำเลยก็ไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การและเพิ่มเติมคำให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่บรรยายว่าสำนักงานพันตรีณรงค์ กิตติขจร หมายถึงอะไร ใครเป็นเจ้าของหรือผู้จัดการ มีอำนาจหน้าที่อย่างไร โจทก์ไม่มีหนังสือมอบอำนาจจากสำนักงานพันตรีณรงค์ กิตติขจร ไม่มีอำนาจฟ้อง การทำสัญญาจ้างระหว่างสำนักงานกับจำเลยเกิดจากกลฉ้อฉลของสำนักงาน ใช้อุบายหลอกลวงให้จำเลยหลงเชื่อว่าสำนักงานสามารถติดต่อให้ทางราชการมีคำสั่งให้นำไม้ออกจากป่าได้ โดยสำนักงานรู้อยู่ก่อนแล้วว่าถึงอย่างไรจำเลยก็ต้องนำไม้ออกจากป่าได้โดยชำระค่าภาคหลวงและค่าบำรุงป่า สัญญาจ้างจึงเป็นโมฆียะ จำเลยได้บอกล้างแล้ว และจำเลยได้บอกเลิกสัญญากับสำนักงานด้วย สัญญาจ้างท้ายฟ้องไม่ปิดอากรแสตมป์ให้ถูกต้องตามกฎหมายมีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนชักจูงให้จำเลยเข้าทำสัญญาโดยแอบอ้างว่าตนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานในกระทรวงเกษตร สามารถติดต่อให้มีประกาศให้จำเลยสามารถนำไม้ออกจากป่าได้เมื่อจำเลยให้ค่าตอบแทน จึงเป็นโมฆะ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมโจทก์มีอำนาจฟ้อง โจทก์ทำการตามสัญญาเสร็จ สัญญาไม่เป็นโมฆียะและไม่เป็นโมฆะ ให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างพร้อมด้วยดอกเบี้ย
ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นนายหนึ่งทำความเห็นแย้งว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน เป็นโมฆะไม่จำต้องวินิจฉัยในประเด็นอื่น สมควรพิพากษายกฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์ไม่บรรยายว่าสำนักงานพันตรีณรงค์ กิตติขจร หมายถึงอะไร ใครเป็นเจ้าของ มีอำนาจหน้าที่อย่างไรนั้น สำนักงานพันตรีณรงค์ กิตติขจร มิใช่นิติบุคคลที่ฟ้องจำเลยไม่มีความจำเป็นต้องกล่าวข้อความตามที่จำเลยฎีกา ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมจำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์ โจทก์ปฏิบัติการตามสัญญาเสร็จแล้วจำเลยไม่ชำระค่าจ้าง โจทก์จึงฟ้อง ข้อความตามสัญญาไม่มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน โจทก์เป็นแต่ผู้รับจ้างเพื่อติดต่อติดตามกับทางราชการ เพื่อให้อนุญาตให้จำเลยทำการขนไม้ของจำเลยออกจากป่าได้เท่านั้น ตามสัญญามิได้มีวัตถุประสงค์ให้โจทก์ใช้อิทธิพลวิ่งเต้นหรือเข้าแทรกแซงในกิจการของทางราชการเพื่อให้อนุญาตให้จำเลยทำการขนหรือชักลากไม้ออกจากป่าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบแบบแผนของทางราชการ เป็นการทำไปตามสิทธิและหน้าที่ในฐานะผู้รับจ้างทำแทนจำเลยซึ่งมีสิทธิอยู่แล้วโดยชอบสัญญาจ้างจึงไม่เป็นโมฆะ สำนักงานพันตรีณรงค์ กิตติขจร เป็นชื่อที่ใช้เรียกขานสำนักงานโจทก์เท่านั้น เมื่อจำเลยลงชื่อเป็นคู่สัญญากับโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ โจทก์ได้ปฏิบัติตามสัญญาจ้างเสร็จสิ้นแล้ว สัญญามิได้เกิดจากกลฉ้อฉลของโจทก์และจำเลยมิได้บอกล้างโมฆียะกรรมด้วยการแสดงเจตนาต่อโจทก์ซึ่งเป็นคู่กรณี
พิพากษายืน

Share