คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีอุกฉกรรจ์ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไปจำเลยคนหนึ่งให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาโดยไม่สอบถามเรื่องทนายความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 173 แล้วพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยนั้นด้วย เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาเฉพาะตัวจำเลยคนนั้น หาได้กระทบกระเทือนถึงกระบวนพิจารณาของจำเลยอื่นที่มีทนายแล้วไม่ และคดีนี้ได้มีการสืบพยานกันแล้วเมื่อศาลชั้นต้นสอบถามเรื่องทนายตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ จำเลยที่รับสารภาพแถลงว่าไม่ต้องการทนาย ส่วนจำเลยอื่นแถลงว่าได้ตั้งทนายไว้แล้ว กรณีดังนี้ไม่จำต้องสืบพยานต่อไป ศาลชั้นต้นต้องทำคำพิพากษาสำหรับจำเลยทุกคนเสียใหม่เท่านั้น

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาพิพากษา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๐, ๘๓
นายสุชัยหรือวิ ชัยสี จำเลยให้การรับสารภาพ
นายเทือง แก้วสมบูรณ์ จำเลยให้การปฏิเสธ
นายพิน หมวดดำ จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ฟังว่า จำเลยทั้งสามได้กระทำผิดจริงตามฟ้องพิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรค ๒, ๘๓จำคุกคนละ ๑๒ ปี นายสุชัยหรือวิ จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๖ ปี
นายเทืองและนายพินจำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อหาตามฟ้องมีโทษอย่างสูงถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตนายสุชัยหรือวิจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีโดยไม่ได้จัดการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๗๓ เรื่องทนาย ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกาว่าเป็นเรื่องผิดพลาดเล็กน้อย ไม่จำต้องให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามคำบรรยายฟ้อง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรค ๒, ๘๓มีโทษจำคุกอย่างสูงถึง ๑๕ ปี นายสุชัยหรือวิจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาโดยไม่ได้สอบถามเรื่องทนายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๓ พิพากษาลงโทษนายสุชัยหรือวิจำเลย ปรากฏว่านายสุชัยหรือวิจำเลยไม่มีทนาย เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา แต่เป็นเรื่องเฉพาะตัวนายสุชัยหรือวิจำเลยเท่านั้นหาได้กระทบกระเทือนถึงกระบวนพิจารณาของจำเลยอื่นที่มีทนายแล้วไม่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ซึ่งจะมีผลให้ศาลชั้นต้นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานกันใหม่ตลอดถึงนายเทืองและนายพินจำเลยด้วยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
อนึ่ง ปรากฏว่าเมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วศาลชั้นต้นได้สอบถามจำเลยทั้งสามเรื่องทนาย นายสุชัยหรือวิจำเลยแถลงว่าไม่ต้องการทนายส่วนนายเทืองและนายพินจำเลยต่างแถลงว่าได้ตั้งทนายอยู่แล้ว กรณีดังกล่าวนี้ไม่จำเป็นต้องสืบพยานโจทก์จำเลยอีกต่อไป
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นทำคำพิพากษาสำหรับจำเลยทุกคนเสียใหม่

Share