แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นได้สั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยภายใน 15 วัน ซึ่งทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งแล้วมิได้จัดการตามคำสั่งแต่อย่างใด จนเกินเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้ ที่ทนายโจทก์อ้างว่าได้มอบเงินค่าส่งหมายให้คนรับใช้นำไปวางศาลแล้ว แต่คนรับใช้ยักยอกเอาเงินนั้นไป จะถือว่าโจทก์ได้จัดการตามหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้วหาได้ไม่ และถือได้ว่าโจทก์ได้ทิ้งฟ้อง
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๑๑ จำเลยที่ ๑ ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปในทางการที่จ้างด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังของจำเลยที่ ๑ รถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ ๑ ขับขี่ได้ชนโจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ ๒๐,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ ๑ ไม่ได้เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๒รถจักรยานยนต์ที่ชนโจทก์ไม่ใช่รถของจำเลยที่ ๒ โจทก์วิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถที่จำเลยที่ ๑ ขับขี่ จำเลยที่ ๑ ห้ามล้อรถกระทันหัน เป็นเหตุให้โจทก์ชนรถมีบาดเจ็บเล็กน้อย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยที่ ๑ ไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ การที่รถชนโจทก์เป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ ๑ พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าสินไหมทดแทนโจทก์ ๑๘,๓๑๗ บาท ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒
โจทก์อุทธรณ์ขอให้จำเลยที่ ๒ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ โดยยื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๑๒ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่จำเลยที่ ๒ ภายใน ๑๕ วัน
ต่อมาวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๑๒ เจ้าพนักงานศาลชั้นต้นรายงานศาลว่าโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลเมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๑๒ ล่วงเลยมา ๒ เดือน ๔ วันแล้ว โจทก์มิได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลย ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๔ จึงสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลอุทธรณ์
โจทก์ฎีกาว่า ทนายโจทก์ได้มอบเงินค่าส่งหมายให้คนรับใช้ของทนายโจทก์เพื่อนำมาวางศาล แต่คนรับใช้ได้ยักยอกเงินจำนวนนี้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ทนายโจทก์มิได้จงใจละทิ้งคดีแต่อย่างใด ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งไต่สวนและอนุญาตให้วางเงินค่าส่งหมายใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ศาลฎีกาเห็นว่า คำฟ้องซึ่งร่วมทั้งฟ้องอุทธรณ์ กฎหมายกำหนดให้เจ้าพนักงานศาลเป็นผู้ส่งสำเนาให้อีกฝ่ายหนึ่ง และให้โจทก์เป็นผู้มีหน้าที่จัดการนำส่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๐ เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นได้สั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยที่ ๒ ภายใน ๑๕ วัน ซึ่งทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งแล้วก็มิได้จัดการตามคำสั่งศาลแต่อย่างใด ที่ทนายโจทก์อ้างว่าได้มอบเงินค่าส่งหมายให้คนรับใช้นำไปวางศาลแล้ว แต่คนรับใช้ยักยอกเอาเงินนั้นไป จะถือว่าโจทก์ได้จัดการตามหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้วหาได้ไม่ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งชอบแล้วให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย