คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ถูกตีด้วยไม้ระแนง กระโหลกศีรษะร้าว ต้องใช้เวลารักษาประมาณ1 ปีครึ่งกระดูกจึงจะเชื่อมติดกันได้และแข็งแรงพอ จะมีอาการปวดศีรษะในระยะ 1 เดือนแรก ไม่สามารถนั่งขายของได้ตามปกติ ดังนี้ ถือได้ว่าต้องทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน และประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน เป็นอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2512 เวลากลางคืน จำเลยใช้ไม้ระแนงตีนางนิด โอวาทตระกูล 1 ที ถูกศีรษะได้รับอันตรายถึงสาหัสถึงทุพพลภาพป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนากล้าเกินกว่า 20 วัน และประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน เหตุเกิดที่ตำบลลุมพินี อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ริบไม้ระแนงของกลางที่ใช้กระทำผิด

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 จำคุก 2 ปี ไม้ของกลางริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

คดีมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแต่เฉพาะข้อกฎหมายข้อเดียวว่าบาดแผลของนางนิดที่ได้รับจากการทำร้ายของจำเลย เป็นอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8) หรือไม่

ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบาดแผลของนางนิดไว้ว่า กระโหลกศีรษะนางนิดร้าวเป็นแนวขนานกับพื้นตรงบาดแผลต้องใช้เวลารักษาประมาณหนึ่งปีครึ่ง กระดูกจึงจะเชื่อมติดกันได้และแข็งแรงพอ จะมีอาการปวดศีรษะในระยะ1 เดือนแรก ไม่สามารถนั่งขายของได้ตามปกติ ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าบาดแผลของนางนิดถือได้ว่าเป็นอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297(8) เพราะนางนิดต้องทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน และประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืนยกฎีกาจำเลย

Share