คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 5 ซึ่งบัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนบางชนิด ซึ่งยังมิได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายมาขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในกำหนดเวลาโดยไม่ต้องรับโทษนั้น หมายความถึงอาวุธปืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น มิได้หมายความรวมถึงอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว เมื่อจำเลยมีอาวุธปืนมีทะเบียนของบุคคลอื่นและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงไม่มีเหตุที่จะอ้างว่าจำเลยไม่ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีอาวุธปืนรีวอลเวอร์ขนาด .๓๘ ซึ่งเป็นปืนมีหมายเลขทะเบียนของผู้อื่นพร้อมด้วยกระสุนปืน ๓ นัด ไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายและบังอาจพกพาไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุอันสมควร
จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง แต่ได้รับยกเว้นโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๕, ๖จึงไม่ต้องรับโทษและไม่ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยได้รับยกเว้นโทษเฉพาะความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ทำจากภายนอกราชอาณาจักรซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ส่วนฐานพกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุสมควร กฎหมายไม่ยกเว้นโทษพิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ปรับ ๘๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งฐานรับสารภาพ คงปรับ ๔๐ บาท
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยเฉพาะข้อหาฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่รับอนุญาต และริบกระสุนปืนของกลาง ศาลฎีกาเห็นว่าตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๕ ซึ่งบัญญัติว่า”ผู้ใดมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิด ไม่ว่าชนิดหรือขนาดใดที่ทำจากภายนอกราชอาณาจักร โดยโรงงานที่ได้รับอนุญาต หรือปืนแก๊ปที่มีคุณภาพใช้ได้โดยปลอดภัยซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมาย ถ้าได้นำอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด หรือปืนแก๊ปดังกล่าวแล้วมาขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ต่อนายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนดเก้าสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ” นั้นศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ในคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๙๕/๒๕๑๓ ว่าหมายความถึงอาวุธปืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นมิได้หมายความรวมถึงอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้วเมื่อข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่าจำเลยมีอาวุธปืนรีวอลเวอร์ขนาด .๓๘ ที่มีทะเบียนของบุคคลอื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เห็นได้ว่าจำเลยจะนำอาวุธปืนและกระสุนปืนนี้ไปขอรับอนุญาตไม่ได้ จึงไม่มีเหตุที่จะอ้างว่าจำเลยไม่ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนดังกล่าวข้างต้น จำเลยต้องมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ๔)พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๓ อีกกระทงหนึ่ง ให้จำคุกจำเลย ๖ เดือน และปรับจำเลย๑,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘คงจำคุกจำเลย ๓ เดือน ปรับ ๕๐๐ บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ถ้าจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ กระสุนปืนของกลางไม่ริบเพราะเป็นกระสุนปืนที่มีไว้สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share