คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยกู้ไปจากโจทก์ จำเลยได้ต่อสู้ว่าจำเลยได้ชำระต้นเงินให้โจทก์ครบแล้ว โจทก์ออกใบเสร็จให้แก่จำเลยไว้เป็นหลักฐาน ฉะนั้นการที่จำเลยขอสืบพยานบุคคลในข้อที่ว่า ใบเสร็จรับเงินที่โจทก์ออกให้แก่จำเลยหายไป 6 ฉบับ จึงไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี เพราะประเด็นแห่งคดีมีว่า จำเลยได้ชำระต้นเงินให้แก่โจทก์ครบตามคำให้การโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อโจทก์ซึ่งจำเลยได้ให้การไว้แล้วหรือไม่ จำเลยจึงไม่ต้องยกข้อเท็จจริงที่ว่า ใบเสร็จที่โจทก์ออกให้แก่จำเลยได้หายไปไว้ในคำให้การ เพราะเป็นวิธีการนำสืบพยานบุคคลแทนเอกสารที่หายตามกฎหมายวิธีสบัญญัติ เมื่อหลักฐานที่ต่อสู้ได้หายไป จำเลยมีสิทธิขออนุญาตศาลนำพยานบุคคลมาสืบแทนเอกสารที่หายไปได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) โดยกฎหมายไม่ได้บัญญัติว่า จำเลยจะต้องขออนุญาตศาลเมื่อใด คดีนี้ เมื่อศาลสืบตัวจำเลยแล้ว จำเลยแถลงขอสืบพยานจำเลยต่อไปในเรื่องใบเสร็จรับเงินที่โจทก์ออกให้แก่จำเลยไว้หายไป 6 ฉบับ ถือได้ว่าจำเลยขออนุญาตสืบพยานบุคคลแทนพยานเอกสารที่หายไปตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลย ชำระเงินที่จำเลยกู้โจทก์ไปพร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน ๖,๙๕๖ บาท ฯลฯ
จำเลยให้การว่า ชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์แล้ว โจทก์ได้ออกใบเสร็จรับเงินให้จำเลยไว้เป็นหลักฐานฯ
ศาลให้จำเลยสืบก่อน เมื่อสืบตัวจำเลยเสร็จ จำเลยขอสืบพยานอีก ๒ คนในเรื่องใบเสร็จรับเงินที่โจทก์ออกให้จำเลย ๖ ฉบับหายไป ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยไม่ได้ยกประเด็นในข้อที่ว่า ใบเสร็จที่โจทก์ออกให้ไว้หายไป จะสืบข้อนี้ไม่ได้โจทก์ไม่นำสืบและแถลงรับว่า ใบเสร็จ ๒ ฉบับที่จำเลยอ้างและส่งศาล เป็นใบเสร็จรับชำระต้นเงินคืนจากจำเลย ๑,๐๐๐ บาท คงค้างต้นเงิน ๓,๐๐๐ บาทกับดอกเบี้ยศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินต้นดังกล่าวและดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยขอสืบพยานบุคคลในข้อที่ว่าใบเสร็จรับเงินที่โจทก์ออกให้แก่จำเลยหายไป ๖ ฉบับนั้น ไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี ประเด็นของคดีมีว่า จำเลยได้ชำระต้นเงินให้แก่โจทก์ครบตามคำให้การ โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อโจทก์ซึ่งจำเลยได้ให้การไว้แล้วหรือไม่ จำเลยจึงไม่ต้องยกข้อเท็จจริงที่ว่า ใบเสร็จที่โจทก์ออกให้แก่จำเลยได้หายไปไว้ในคำให้การเพราะเป็นวิธีการนำสืบพยานบุคคลแทนเอกสารที่หาย ตามกฎหมายวิธีสบัญญัติต่อไป เมื่อจำเลยได้ต่อสู้ว่า จำเลยได้ชำระต้นเงินให้แก่โจทก์ครบแล้ว โจทก์ออกใบเสร็จให้แก่จำเลยไว้เป็นหลักฐานแล้ว เมื่อหลักฐานที่ต่อสู้ได้หายไป ดังนี้ จำเลยมีสิทธิจะขออนุญาตศาลนำพยานบุคคลมาสืบแทนเอกสารที่หายไปได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๙๓(๒) โดยกฎหมายไม่ได้บัญญัติว่า จำเลยจะต้องขออนุญาตศาลเมื่อใดคดีนี้ เมื่อศาลสืบตัวจำเลยเสร็จแล้ว จำเลยได้แถลงขอสืบนายแสวงและนายวิชัยต่อไปในเรื่องใบเสร็จรับเงินที่โจทก์ออกให้แก่จำเลยไว้หายไป ๖ ฉบับถือได้ว่าจำเลยได้ขออนุญาตสืบพยานบุคคลแทนพยานเอกสารที่หายไปตามบทกฎหมายที่กล่าวแล้วและตามรูปคดีนี้ สมควรอนุญาตให้จำเลยสืบพยานบุคคลได้
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบนายแสวงและนายวิชัยพยานของจำเลย และสืบพยานโจทก์ต่อไป เสร็จแล้วให้พิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

Share