แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้ไม่ไผ่กลมตันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เซนติเมตร ยาว 1 เมตร ตีผู้เสียหายถึง 10 ครั้ง ผู้เสียหายถูกตีที่ศีรษะด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายจนกะโหลกศีรษะด้านหลังร้าว สมองกระทบกระเทือน สลบไปนานประมาณ 5 ชั่วโมง แสดงว่าจำเลยตีโดยแรงประกอบกับขณะที่ตีผู้เสียหายจำเลยพูดว่าถ้าตีไม่ตายจะยิงซ้ำให้ตาย และหลังจากผู้เสียหายสลบ จำเลยยังถือไม้ไผ่เข้าไปและพูดว่าจะตีให้ตายอีกหลายครั้ง แต่มีคนห้ามไว้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๘๐ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๗ ให้จำคุก ๔ ปี คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๓ ปี ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘,๘๐ จำคุก ๑๒ ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยนำสืบรับกันฟังได้ว่าจำเลยได้ใช้ไม้ไผ่กลมตันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑ เมตร ตีผู้เสียหายหลายทีถูกที่บริเวณศีรษะ ปรากฏบาดแผลมีรอยบวมช้ำของหนังศีรษะด้านซ้ายกะโหลกศีรษะร้าวด้านหลัง สมองกระทบกระเทือนผู้เสียหายสลบนานประมาณ ๕ ชั่วโมงคงมีปัญหาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นหรือไม่
พิเคราะห์แล้ว นอกจากข้อเท็จจริงรับฟังได้ดังกล่าวแล้ว โจทก์มีผู้เสียหายเบิกความยืนยันด้วยว่า ขณะที่จำเลยตีผู้เสียหายจำเลยพูดว่า ถ้าตีไม่ตายจะยิงซ้ำให้ตาย คำเบิกความนี้ไม่มีข้อพิรุธ ตัวจำเลยเองให้การรับในชั้นสอบสวนตามบันทึกคำให้การเอกสารหมาย จ.๕ ด้วยว่า จำเลยตีผู้เสียหายถึง ๑๐ ครั้ง ทั้งยังได้ความจากนางแจ้ง ณรงค์กูล ภริยาผู้เสียหายกับนายสำรอง มิ่งสงค์ ซึ่งเบิกความสอดคล้องต้องกันว่าหลังจากผู้เสียหายสลบมีคนนำไปไว้บนศาลาใกล้ที่เกิดเหตุ จำเลยถือไม้ไผ่เข้าไปและพูดว่าจะตีเสียให้ตายอีกหลายครั้ง ข้อนำสืบของจำเลยที่ว่าผู้เสียหายจะใช้มีดแทงจำเลยก่อนจำเลยใช้ไม้เหวี่ยงไป ๒ ที แล้ววิ่งกลับไปจึงไม่น่าเชื่อถือ ไม่อาจรับฟังหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ เห็นว่าไม้ที่จำเลยใช้ตีผู้เสียหายมีขนาดใหญ่พอสมควร ผู้เสียหายถูกตีที่ศีรษะด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายจนกะโหลกศีรษะด้านหลังร้าวสมองกระทบกระเทือน สลบไปนาน ๕ ชั่วโมง แสดงว่าจำเลยตีโดยแรงประกอบกับพฤติการณ์จำเลยทั้งขณะเกิดเหตุและเกิดเหตุแล้วข้างต้น เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ไม่ใช่มีเพียงเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น
พิพากษายืน