แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ถอนการอายัดเงินฝาก โดยให้เจ้าพนักงานบังคับคดีคืนเงินที่ธนาคารส่งมาตามคำสั่ง อายัดให้แก่ผู้ร้องขัดทรัพย์ โจทก์ฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้อง ขอทุเลาการบังคับดังกล่าวไว้ก่อน ศาลฎีกาอนุญาตให้ ทุเลาการบังคับโดยให้เจ้าพนักงานบังคับคดีระงับการคืนเงิน ดังกล่าวแก่ผู้ร้องไว้ในระหว่างฎีกา และกำหนดวิธีการเพื่อให้ ผู้ร้องรับเงินไปในระหว่างนี้โดยหาประกันมาวางแทนด้วยก็ได้
ย่อยาว
สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินฝากตามบัญชีเลขที่ 04-00015-2 จำนวน 13,000 บาท และตามบัญชีเลขที่ 04-00016-0 จำนวน 12,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาราชเทวี ตามคำขอของโจทก์โดยอ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 2 และต่อมาธนาคารดังกล่าวได้ส่งเงินจำนวน 43,161.33 บาท แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีแล้วผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องว่าเงินฝากตามบัญชีที่โจทก์ อายัดนั้น เป็นของผู้ร้องโดยนายสมยศ นพกิจกำจร บิดาผู้ร้อง ฝากให้เป็นทุนการศึกษาของผู้ร้องมิใช่ของจำเลยที่ 2 ขอให้ ถอนการอายัดและจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้องทั้งสองต่อไป ศาลชั้นต้น มีคำสั่งให้ถอนการอายัดเงินฝากในบัญชีเลขที่ 04-00015-2 และบัญชีเลขที่ 04-00016-0 ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัดสาขาราชเทวี โดยให้เจ้าพนักงานบังคับคดีคืนเงินจำนวน43,161.33 บาท ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาราชเทวีส่งมาตามคำสั่งอายัดให้แก่ผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยก่อนหน้าที่มีคำสั่งอนุญาต ให้เจ้าพนักงานบังคับคดี ระงับการคืนเงินจำนวน 43,161.33 บาท แก่ผู้ร้องไว้ในระหว่าง อุทธรณ์ โจทก์ฎีกา พร้อมยื่นคำร้องขอให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ก่อน
ศาลฎีกาสั่งว่า “ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีระงับการ คืนเงิน 43,161.33 บาท แก่ผู้ร้องไว้ในระหว่างฎีกา แต่ถ้า ผู้ร้องหาประกันมาวางแทนจนเป็นที่พอใจของศาลชั้นต้น ก็ให้จ่ายเงินแก่ผู้ร้องไป”