แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นพี่ชายผู้เสียหาย คนทั้งสองทำงานอยู่ด้วยกันกับบิดา ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายกับจำเลยทะเลาะโต้เถียงด่าว่ากันอันเป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรงถึงกับจะต้องเอาชีวิตกัน การที่จำเลยได้ใช้เหล็กขูดชาฟท์ยาวประมาณ 4 นิ้ว แทงผู้เสียหายที่ชายโครงขวา 1 ครั้งแล้วหลบหนีไปโดยมิได้แทงซ้ำอีก ผู้เสียหายมีบาดแผลทะลุกะบังลมและตับ ต้องรักษาโดยการผ่าตัดและรักษาตัวต่ออีก 9 วัน จึงออกจากโรงพยาบาล บาดแผลต้องรักษาเป็นเวลา 4-6 อาทิตย์จึงจะหาย พฤติการณ์ดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ใช้เหล็กขูดชาฟท์ยาวเฉพาะตัวเหล็กไม่รวมด้ามยาวประมาณ ๖ นิ้ว เป็นอาวุธแทงนายพิศาล แซ่ตั้ง ผู้เสียหาย ๑ ครั้ง โดยเจตนาฆ่าถูกบริเวณชายโครงขวาเป็นบาดแผลรูปแฉกกว้าง ๒ เซนติเมตร แผลทะลุกะบังลมและตับ มีเลือดออกในช่องท้อง แต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเพราะแพทย์รักษาได้ทันท่วงที เพียงแต่ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๐ จำคุก ๑๐ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก ๖ ปี ๘ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายหรือไม่นั้นได้ความว่าผู้เสียหายกับจำเลยเป็นพี่น้องกัน ทั้งสองคนทำงานอยู่ด้วยกันกับนายเต็กคุณบิดา เหตุคดีนี้เกิดขึ้นเพราะผู้เสียหายกับจำเลยทะเลาะโต้เถียงด่าว่ากันก่อน อันเป็นเรื่องไม่ร้ายแรงถึงกับจะต้องเอาชีวิตกัน จำเลยซึ่งเป็นพี่ชายของผู้เสียหายใช้เหล็กขูดชาฟท์แทงผู้เสียหายในขณะนั้น ๑ ครั้ง แล้วหลบหนีไป โดยไม่ได้แทงซ้ำอีกได้ความว่าเหล็กขูดชาฟท์ที่ใช้แทงมีความยาวประมาณ ๔ นิ้วเท่านั้น พฤติการณ์แห่งคดียังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงฟังได้เพียงว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเท่านั้น แต่ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายสาหัสการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ ซึ่งศาลลงโทษตามมาตรานี้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒
พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๗ จำคุก ๓ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก ๒ ปี