แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยและสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกา แก่โจทก์ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฎีกา ดังนี้ แม้ไม่ปรากฏว่าจำเลย ลงชื่อทราบคำสั่ง แต่เมื่อแบบพิมพ์ท้ายฎีกามีข้อความว่า ‘ฯลฯ และ รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว’ และศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ในวันที่จำเลยยื่นฎีกานั้นเอง จึงต้องถือว่าจำเลยทราบคำสั่งแล้วการที่จำเลยมิได้นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงเป็นการทิ้งฟ้องฎีกา ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๒๖๕,๙๔๒ บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่าไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๒๓๙,๐๕๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยและสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกาแก่โจทก์ทั้งสองภายใน ๑๕ วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฎีกา ไม่ปรากฏว่าฝ่ายจำเลยลงชื่อทราบคำสั่งนี้ ต่อมาเจ้าพนักงานกรมบังคับคดีรายงานให้ศาลชั้นต้นทราบว่าจำเลยไม่นำมาส่งสำเนาฎีกา ศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนมายังศาลฎีกาเพื่อพิจารณา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แบบพิมพ์ท้ายฎีกามีข้อความว่า “ข้าพเจ้าได้ยื่นสำเนาฎีกาโดยข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกันมาด้วยสองฉบับ และรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว” และปรากฏว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งดังกล่าวข้างต้นในวันที่จำเลยยื่นฎีกานั้นเอง จึงต้องถือว่าจำเลยได้ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้นำส่งสำเนาฎีกาแก่โจทก์ทั้งสองภายใน ๑๕ วันแล้ว เมื่อจำเลยมิได้นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ทั้งสองในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดเช่นนี้ ถือว่าจำเลยทิ้งฟ้องฎีกา
จึงให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลฎีกา ค่าธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ