คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3067/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาซื้อขายรถยนต์มีข้อความว่าผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ขายจะส่งมอบรถให้แก่ผู้ซื้อในวันที่โอนทะเบียน ผู้ซื้อจะชำระเงิน 10,000 บาท และจะโอนทะเบียนกันในเดือนพฤศจิกายน 2527 ดังนี้ เป็นสัญญาซื้อขายที่มีเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 459 กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยังไม่โอนไปจนกว่าผู้ซื้อจะได้ชำระราคาและโอนทะเบียนแล้ว เมื่อผู้ซื้อยังชำระราคาไม่ครบ และยังไม่ได้โอนทะเบียนกันกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ของกลางยังคงเป็นของผู้ร้อง

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ ริบไม้และรถยนต์ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า รถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องไม่ได้ร่วมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์คัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ของกลาง และผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ารถยนต์ของกลางเดิมเป็นของผู้ร้อง เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๒๗ ผู้ร้องได้ทำสัญญาขายให้แก่นายเผี้ยง เหรียญขำ ในราคา ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาเอกสารหมาย ค.๒ ที่โจทก์ฎีกาว่ารถยนต์ของกลางตกเป็นของนายเผี้ยงผู้ซื้อตามสัญญาซื้อขายดังกล่าวนั้น เห็นว่า ตามสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย ค.๒ ข้อ ๓ ผู้ขายจะส่งมอบรถในวันที่โอนทะเบียน และผู้ซื้อจะชำระเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท และจะโอนทะเบียนกันในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๒๗ ดังนี้ เป็นสัญญาซื้อขายที่มีเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๕๙ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยังไม่โอนไปจนกว่าผู้ซื้อจะได้ชำระราคาและโอนทะเบียนแล้ว เมื่อนายเผี้ยงยังชำระราคาไม่ครบและยังไม่ได้โอนทะเบียนกัน กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ของกลางยังคงเป็นของผู้ร้อง
พิพากษายืน.

Share