คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2767/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้เสียหายสนิทสนมกันมานานเพราะต่างเป็นใบ้และหูหนวก วันเกิดเหตุจำเลยดื่มเบียร์จนเวียนศีรษะแล้วใช้มีดพกชนิดพับได้ ใบมีดยาวประมาณ 2 นิ้ว ซึ่งเป็นมีดขนาดเล็กแทงผู้เสียหายแม้จะแทงหลายที ที่หน้าอก ชายโครงและหน้าท้อง แต่ก็น่าจะไม่มีเจตนาเลือกแทงเพราะขณะนั้นจำเลยและผู้เสียหายกำลังกอดปล้ำกันอยู่ และรูปคดีเชื่อว่าหากจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยย่อมจะทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้โดยง่าย เพราะไม่มีใครรู้เห็นและห้ามปราม ทั้งผู้เสียหายก็ไม่อาจร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใดได้เพราะเป็นใบ้ ผู้เสียหายลุกขึ้นมาได้ทันทีหลังจากถูกแทง ดังนี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๒๘๙,๓๓๙
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ จำคุก ๑๐ ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก ๕ ปี
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ จำคุก ๓ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก ๒ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาโดยอธิบดีกรมอัยการรับรอง
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้เสียหายและจำเลยมีความสนิทสนมกันมานาน เพราะต่างเป็นใบ้หูหนวกและเคยร่วมศึกษาในโรงเรียนเดียวกันมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันตลอดมา จำเลยเคยยืมเงินผู้เสียหายบ่อย น่าเชื่อว่าสร้อยคอพร้อมพระเลี่ยมทองของผู้เสียหาย น่าจะหายไประหว่างที่ผู้เสียหายวิวาทและกอดปล้ำกับจำเลย ส่วนเรื่องที่จำเลยทำร้ายผู้เสียหายนั้นได้ความว่าจำเลยดื่มเบียร์จนเวียนศีรษะแล้วใช้มีดพกชนิดพับได้ ใบมีดยาวประมาณ ๒ นิ้ว ซึ่งเป็นมีดขนาดเล็กแทงผู้เสียหาย แม้จะแทงหลายที ที่หน้าอก ชายโครงและหน้าท้อง แต่ก็น่าจะไม่มีเจตนาเลือกแทง เพราะขณะนั้นจำเลยและผู้เสียหายกำลังกอดปล้ำกันอยู่ และรูปคดีเชื่อว่า หากจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายจำเลยย่อมจะทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้โดยง่าย เพราะไม่มีใครรู้เห็นและห้ามปราม ทั้งผู้เสียหายก็ไม่อาจร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใดได้เพราะเป็นใบ้ ผู้เสียหายลุกขึ้นมาได้ทันทีหลังจากถูกแทง เช่นนี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
พิพากษายืน.

Share