คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2223/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย โจทก์มิได้นำส่งเองเพียงแต่เสียค่าธรรมเนียมการส่งหมายให้แก่จำเลยทั้งเจ็ดและค่าป่วยการพิเศษเพื่อให้เจ้าพนักงานเดินหมายถ่ายภาพรายงานการเดินหมายส่งให้โจทก์ทราบ หากโจทก์นำส่งเอง โจทก์จะทราบผลทันทีที่ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 6 ไม่ได้ จึงเป็นความผิดของโจทก์เองที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลเมื่อโจทก์มิได้แถลงต่อศาลเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 15 วัน นับแต่วันส่งไม่ได้ตามเวลาที่ศาลกำหนด จึงถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) แต่ตามมาตรา 132 มิได้บังคับเด็ดขาดว่าศาลต้องจำหน่ายคดีเป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลพินิจ โจทก์อ้างว่าได้ติดตามขอทราบผลการส่งหมายให้จำเลยที่ 6 หลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งว่าสำนวนเสนอผู้พิพากษาทุกครั้ง และปรากฏว่าเจ้าพนักงานเดินหมายไม่ได้ส่งภาพถ่ายรายงานการเดินหมายของจำเลยที่ 6 ให้โจทก์เช่นจำเลยคนอื่น ๆ ดังนี้ เป็นพฤติการณ์ที่ยังไม่สมควรจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 6

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งเจ็ดให้ร่วมกันชำระหนี้ ในชั้นส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย เจ้าหน้าที่ศาลรายงานว่า ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ ๖ ไม่ได้ เกินกำหนด ๑๕ วันแล้วโจทก์ไม่มาแถลงดำเนินคดี ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ให้จำหน่ายคดีโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๖ ออกจากสารบบความ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับฟ้องแล้วได้สั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยแต่โจทก์กระทำเพียงเสียค่าธรรมเนียมในการส่งหมายให้จำเลยทุกคน และค่าป่วยการพิเศษเพื่อให้เจ้าพนักงานเดินหมายถ่ายภาพรายงานการเดินหมายส่งให้โจทก์เท่านั้น ไม่ได้กระทำตามคำสั่งศาลคือ โจทก์ไม่ได้นำส่งเอง ถ้าโจทก์นำส่งเอง โจทก์จะทราบผลทันที่ที่ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ ๖ ไม่ได้ เป็นความผิดของโจทก์เองที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล เมื่อโจทก์มิได้แถลงต่อศาลเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ ๖ ไม่ได้ตามเวลาที่ศาลกำหนด เป็นกรณีที่ถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๔ (๒) ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความได้ตาม มาตรา ๑๓๒ แต่บทมาตรา ๑๓๒ นี้ไม่ได้บังคับเด็ดขาดว่าศาลต้องจำหน่ายคดีเป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลพินิจ โจทก์อ้างว่าได้ติดตามขอทราบผลการส่งหมายให้จำเลยที่ ๖ หลายครั้ง โดยขอดูสำนวนของศาลแพ่งแต่เจ้าหน้าที่ศาลแพ่งแจ้งว่าสำนวนเสนอผู้พิพากษาทุกครั้ง โจทก์จึงไม่ทราบผลการส่งหมาย ทั้งปรากฏว่าเหตุที่เจ้าพนักงานเดินหมายไม่ได้ส่งภาพถ่ายรายงานการเดินหมายของจำเลยที่ ๖ ให้โจทก์เช่นจำเลยคนอื่น ๆ ก็เพราะมีเหตุขัดข้อง ทางฝ่ายเจ้าพนักงานเดินหมายเองเป็นพฤติการณ์ที่ยังไม่สมควรจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ ๖
พิพากษากลับ ให้โจทก์จัดการนำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ ๖ ใหม่ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด แล้วดำเนินการต่อไป

Share