แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 3 คนร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายจับแขนขาผู้เสียหาย แล้วผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่คนละครั้ง แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกับพวกช่วยกันจับแขนขาผู้เสียหาย ให้พวกของจำเลยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ไปแล้ว 2 คน แม้จำเลยมิได้กระทำชำเราผู้เสียหายด้วยก็ตาม แต่การที่จำเลยช่วยจับขาของผู้เสียหายไว้เพื่อให้พวกของจำเลยข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ไปแล้วเช่นนี้ การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นตัวการในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงแล้ว ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงหาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องไม่
ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 โดยไม่ระบุวรรคใดนั้น ศาลฎีกาแก้เป็นระบุว่าผิด มาตรา 276 วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีก ๓ คนร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรานางอุไร นาคพันธุ์ อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖, ๘๓ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ ประกอบมาตรา ๘๓ ลงโทษจำคุก ๑๕ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันใช้กำลังกายประทุษร้ายจับตัวผู้เสียหายกระชากให้ล้มลงแล้วช่วยกันจับแขนจับขา จำเลยกับพวกได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่คนละครั้ง แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกับนายหัวแดงช่วยกันจับขาผู้เสียหายไว้คนละข้างแล้วถ่างออกให้นายด้วงข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อเสร็จแล้วนายด้วงมาจับขาแทนนายหัวแดงเพื่อให้นายหัวแดงข่มขืนกระทำชำเราต่อไป แล้วนายหัวแดงมาจับขาแทนจำเลยเพื่อให้จำเลยข่มขืนกระทำชำเรา จำเลยขึ้นไปนอนทับบนผู้เสียหายแต่ยังมิได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเพราะถูกขัดขวางโดยนายจุนจึงเป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องจึงชอบที่จะยกฟ้องนั้น เห็นว่าตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์นั้นแม้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยมิได้กระทำชำเราผู้เสียหายด้วยก็ตาม แต่การที่จำเลยช่วยจับขาของผู้เสียหายไว้เพื่อให้นายด้วงข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ไปแล้ว และจำเลยยังคงจับขาผู้เสียหายไว้เพื่อให้นายหัวแดงข่มขืนกระทำชำเราต่อไปเช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการร่วมกับนายด้วงและนายหัวแดงเพื่อกระทำความผิดอันเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ แล้ว และเมื่อผู้เสียหายถูกข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงจำเลยก็ย่อมเป็นตัวการในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามบทกฎหมายดังกล่าวด้วย ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงหาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องดังข้อฎีกาของจำเลยไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ โดยมิได้ระบุไว้ว่าเป็นความผิดวรรคใดนั้นเห็นสมควรระบุให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง ให้ลดมาตราส่วนโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๖ จำคุกจำเลยมีกำหนด ๑๐ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.