แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกันสัญญาประนีประนอมยอมความของลูกหนี้ในวงเงิน 200,000 บาท ได้ผ่อนชำระหนี้ให้แก่บริษัท ส.(เจ้าหนี้เดิมของลูกหนี้) ไปเป็นเงิน 22,500 บาทแล้ว จึงเป็นเจ้าหนี้มีสิทธิไล่เบี้ยในมูลหนี้ที่ตนได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้จำนวน 22,500 บาท ส่วนหนี้ที่เจ้าหนี้จะต้องรับผิดต่อบริษัท ส. ที่ตนอาจใช้สิทธิไล่เบี้ยในเวลาภายหน้าได้นั้น เมื่อบริษัท ส. ได้ใช้สิทธิขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามจำนวนที่ลูกหนี้ยังเป็นหนี้อยู่จริงก็ต้องหักยอดเงินที่บริษัท ส.ได้รับชำระหนี้จากเจ้าหนี้จำนวน 22,500 บาท ออกเสียก่อนและถือได้ว่าบริษัท ส.ได้ใช้สิทธิขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ไว้เต็มจำนวนแล้ว เจ้าหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกันย่อมหมดสิทธิที่จะขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้สำหรับจำนวนที่ตนอาจใช้สิทธิไล่เบี้ยในเวลาภายหน้าต่อไปตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 101.
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้สิทธิไล่เบี้ยตามคำพิพากษาตามยอม เป็นจำนวนเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ (จำเลยที่ ๑) ไม่มีผู้ใดโต้แย้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วเสนอความเห็นต่อศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ (จำเลยที่ ๑) ในวงเงินไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาทโดยมีเงื่อนไขว่า หากเจ้าหนี้ได้ชำระหนี้แก่บริษัทสินเอเซียจำกัด แทนจำเลยที่ ๑ เพียงไรให้ได้รับชำระหนี้เพียงนั้น
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เจ้าหนี้เป็นผู้ค้ำประกันลูกหนี้ (จำเลยที่ ๑) ต่อบริษัทสินเอเซีย จำกัด ในวงเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เมื่อเจ้าหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกันได้ผ่อนชำระหนี้ให้แก่บริษัทสินเอเซีย จำกัด ไปเป็นเงิน ๒๒,๕๐๐ บาท จึงเป็นเจ้าหนี้มีสิทธิไล่เบี้ยในมูลหนี้ที่ตนได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ (จำเลยที่ ๑) เจ้าหนี้จึงมีสิทธิขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ (จำเลยที่ ๑) จำนวน ๒๒,๕๐๐ บาท ส่วนหนี้ที่เจ้าหนี้จะต้องรับผิดต่อบริษัทสินเอเซีย จำกัด ที่ตนอาจใช้สิทธิไล่เบี้ยในเวลาภายหน้าได้นั้นเมื่อบริษัทสินเอเซียจำกัด ได้ใช้สิทธิขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ (จำเลยที่ ๑) ตามจำนวนที่ลูกหนี้ (จำเลยที่ ๑) ยังคงเป็นหนี้อยู่จริงก็ต้องหักยอดเงินที่ตนได้รับชำระหนี้จากเจ้าหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกันจำนวน ๒๒,๕๐๐ บาท ออกเสียก่อน และถือได้ว่าบริษัทสินเอเซีย จำกัด ได้ใช้สิทธิขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ (จำเลยที่ ๑) ไว้เต็มจำนวนแล้ว เจ้าหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกันย่อมหมดสิทธิที่จะขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ (จำเลยที่ ๑) สำหรับจำนวนที่ตนอาจใช้สิทธิไล่เบี้ยในเวลาภายหน้าต่อไปตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๐๑
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้นางศิริพร เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ (จำเลยที่ ๑) เป็นเงิน ๒๒,๕๐๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.