คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การล่วงเกินในทำนองชู้สาวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสองมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย สิทธิเรียกค่าทดแทนนี้มิได้มีเงื่อนไขว่าสามีจะต้องฟ้องหย่าภริยาเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาวได้ และค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งที่ชายชู้ต้องรับผิด ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามฐานานุรูปแห่งผู้ต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งรวมถึงความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์ด้วย
โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นชู้กับ น.ผู้ตายซึ่งเป็นภริยาโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ข้อหนึ่งว่าหาก น. เป็นภริยาโจทก์โจทก์ก็รู้เห็นเป็นใจให้ภริยามีชู้ ดังนี้ประเด็นที่ว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจให้จำเลยเป็นชู้กับผู้ตายนั้น ภาระการพิสูจน์ตกแก่จำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นชู้กับนางนิภาภริยาโจทก์เป็นเหตุให้ภริยาโจทก์ถึงแก่ความตายเพราะการร่วมประเวณีกับจำเลย จนมีข่าวลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์แพร่หลาย ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิด ๑๗๐,๐๐๐ บาทและค่าทดแทนที่จำเลยเป็นชู้เป็นเงิน ๑๓๐,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การว่า ภริยาโจทก์มิได้ตายเพราะการร่วมประเวณีแต่ตายเพราะโรคหัวใจ จำเลยไม่รู้ว่านางนิภาเป็นภริยาโจทก์ หากเป็นโจทก์ก็รู้เห็นเป็นใจให้ภริยามีชู้เพราะโจทก์ไม่หึงหวงหรือแสดงว่าเป็นสามีของนางนิภาโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนเพราะยังไม่มีคำพิพากษาของศาลให้โจทก์และนางนิภาหย่ากันก่อน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าทดแทนที่จำเลยเป็นชู้กับภริยาโจทก์เป็นเงิน ๔๐,๐๐๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ถึงแก่ความตายบุตรโจทก์เข้าเป็นคู่ความแทน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ในเรื่องอำนาจฟ้องนั้นศาลฎีกาเห็นว่าความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง บัญญัติไว้ว่า ‘สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้…..’ การล่วงเกินในทำนองชู้สาวย่อมมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วยและสิทธิเรียกค่าทดแทนตามความในวรรคสองของบทกฎหมายดังกล่าวมิได้มีเงื่อนไขว่าสามีจะต้องฟ้องหย่าภริยาเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาวได้ ดังนั้น เมื่อจำเลยเป็นชู้กับภริยาโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจให้จำเลยเป็นชู้กับผู้ตายนั้น ประเด็นข้อนี้ภาระการพิสูจน์ตกแก่จำเลย ซึ่งได้ความว่า จำเลยและผู้ตายทำงานอยู่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเหมือนกันและจำเลยเบิกความว่ามีสายงานเกี่ยวข้องกับผู้ตายด้วย ที่จำเลยนำสืบว่าโจทก์เคยเห็นจำเลยกับผู้ตายไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสอง หากมีก็เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ย่อมเข้าใจว่าไปในฐานะเพื่อนร่วมงานดังที่จำเลยเบิกความซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่บุคคลในภาวะเช่นนี้ย่อมมีกันได้ ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจให้ผู้ตายเป็นชู้กับจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ สำหรับข้อฎีกาของจำเลยที่ว่าค่าทดแทนสูงไป และศาลล่างมิได้วางหลักเกณฑ์ในการคำนวณนั้นเห็นว่า ค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๕๒๓ เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งที่กฎหมายกำหนดให้ชายชู้ต้องรับผิด ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามฐานานุรูปแห่งผู้ต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งในเรื่องนี้รวมถึงความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์ด้วย ….. ที่ศาลล่างกำหนดค่าทดแทนให้จำเลยต้องรับผิดมานั้นเป็นผลดีแก่จำเลยมากแล้ว
พิพากษายืน.

Share