คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4246/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พนักงานเดินหมายได้นำหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปส่งให้ทนายจำเลย ณ สำนักงานของทนายจำเลยแล้วไม่พบตัวบุคคลอายุเกิน 20 ปี ซึ่งอยู่ในสำนักงานเดียวกันนั้นเต็มใจรับหมายไว้แทน ต้องถือว่าได้มีการส่งหมายนัดแก่ทนายจำเลยโดยถูกต้องและชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 75, 76 แล้ว จำเลยอ้างว่าทนายจำเลยไม่ทราบหมายนัดหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาบังคับให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี โจทก์อุทธรณ์ขอให้ชำระในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปี จำเลยซึ่งขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณายื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ อ้างว่าไม่ได้จงใจขาดนัด ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิจารณาอุทธรณ์โจทก์จำเลยแล้วพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ส่วนอุทธรณ์จำเลยพิพากษายืน
ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทั้งสองฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา ถึงวันนัดเสมียนทนายโจทก์มาศาลจำเลยไม่มา ศาลชั้นต้นจึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้เสมียนทนายโจทก์ฟัง ส่วนจำเลยให้ถือว่าทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว
วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๒๖ จำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยไม่ทราบหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เพราะปิดหมายนัดที่บ้าน ซึ่งจำเลยไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ จึงไม่ชอบ ทนายจำเลยไม่เคยได้รับหมายนัด จำเลยเพิ่งทราบเมื่อไปตรวจสำนวนที่ศาลแพ่งซึ่งล่วงเลยระยะเวลาที่จะฎีกาแล้ว ขอให้ไต่สวนคำร้องของจำเลยหรือมีคำสั่งให้จำเลยยื่นฎีกาภายในกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควร
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แก่ทนายจำเลยเป็นการชอบหรือไม่ ได้ความจากรายงานการเดินหมายของพนักงานเดินหมาย กรมบังคับคดีว่า ได้นำหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปส่งให้ทนายจำเลย ณ สำนักงานของทนายจำเลยแล้วไม่พบตัว แต่นางกมลทิพย์อายุเกิน ๒๐ ปี ซึ่งอยู่ในสำนักงานเดียวกันนั้นเต็มใจรับหมายนั้นไว้แทน ดังนี้ต้องถือว่าเป็นการเพียงพอที่จะฟังว่าได้มีการส่งหมายนัดดังกล่าวแก่นายจำเลยโดยถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๕, ๗๖ จำเลยอ้างว่าทนายจำเลยไม่ทราบหมายนัดหาได้ไม่
พิพากษายืน

Share