แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีที่โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาสืบหรือประจักษ์พยานไม่ยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายโดยเบิกความขัดกับคำให้การชั้นสอบสวนโดยปราศจากเหตุผลหากโจทก์มีพยานหลักฐานอื่นก็อาจใช้ประกอบกันเพื่อรับฟังลงโทษจำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันปล้นทรัพย์สร้อยคอนาก ๑ เส้นและพระ ๑ องค์ รวมราคา ๕๐๐ บาท ของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓, ๘๓, ๓๔๐ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑(พ.ศ. ๒๕๑๔) ข้อ ๑๔ คืนสร้อยคอนากของกลางแก่เจ้าของ และริบมีดปลายแหลมของกลาง
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๓๔๐ วรรคสอง ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๑๔ วางโทษจำคุกคนละ ๑๕ ปี จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและสอบสวนลดโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ จำคุกคนละ ๑๐ ปี ริบมีดปลายแหลมของกลาง ส่วนสร้อยคอนากของกลางปรากฏว่าได้คืนเจ้าของไปแล้วจึงให้ยก
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์มีประจักษ์พยานสองปาก คือนางสาวนินทา ปานอารัก ผู้เสียหาย และนายเล็ก มั่นมี แต่โจทก์ไม่สามารถนำผู้เสียหายมาสืบเพราะหาตัวไม่พบ คงส่งแต่คำให้การชั้นสอบสวน ส่วนนายเล็กประจักษ์พยานอีกปากหนึ่งเบิกความไม่ยืนยันว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนร้าย โดยอ้างว่าขณะเกิดเหตุมืดพยานไม่ได้มองหน้าคนร้ายจึงจำคนร้ายไม่ได้ ซึ่งเป็นการเบิกความขัดกับคำให้การชั้นสอบสวนที่ยืนยันว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนร้าย เห็นว่า แม้โจทก์จะไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาสืบ หรือประจักษ์พยานไม่ยืนยันว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนร้ายก็มิได้หมายความว่าศาลต้องฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสามมิได้เป็นคนร้ายเสมอไป กรณีที่ประจักษ์พยานเบิกความขัดกับคำให้การชั้นสอบสวนโดยปราศจากเหตุผล หากโจทก์มีพยานหลักฐานอื่นก็อาจใช้ประกอบกันเพื่อฟังว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนร้ายได้ ตามข้อเท็จจริงปรากฏว่าคืนเกิดเหตุนั้นเอง เจ้าพนักงานตำรวจพานายเล็กตระเวนหาคนร้ายในบริเวณที่เกิดเหตุ เมื่อนายเล็กพบจำเลยทั้งสาม นายเล็กชี้ให้เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสามทันทีโดยยืนยันว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนร้าย เป็นพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่านายเล็กจำคนร้ายได้แม่นยำว่าเป็นจำเลยทั้งสาม อีกประการหนึ่งเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสามนั้นเจ้าพนักงานตำรวจได้ยึดมีดปลายแหลมและสร้อยคอนากของนางสาวนินทาผู้เสียหายได้จากจำเลยที่ ๓ เป็นของกลาง นอกจากนี้จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพมาตั้งแต่ชั้นจับกุมจนถึงชั้นสอบสวนและในชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสามได้นำชี้ที่เกิดเหตุแสดงการกระทำผิดของจำเลยทั้งสามไว้ชัดแจ้ง ตามคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสามก็มีเนื้อหาสาระรายละเอียดตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคดีนี้ พยานหลักฐานของโจทก์ จึงมั่นคงและรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนร้าย ฎีกาของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน