คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค คำแจ้งความที่ว่า มาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อที่จะให้ดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด แต่ในชั้นนี้ผู้แจ้งยังไม่ขอมอบคดี โดยจะขอไปติดตามทวงถามด้วยตนเองอีก ถ้าได้รับการปฏิเสธการใช้เงินจะกลับมามอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินการถึงที่สุด จึงขอลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานนั้น เห็นได้ว่าในวันที่มีการลงบันทึกประจำวัน เป็นการแจ้งไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น บันทึกดังกล่าวจึงมิใช่คำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (7)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วินิจฉัยว่า โจทก์มิได้ร้องทุกข์ไว้ก่อน คดีโจทก์จึงขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า รายงานประจำวันระบุใจความเป็นสำคัญว่า “หลังจากทราบว่าเช็คทั้งสองฉบับได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้แจ้งได้ติดตามทวงถาม น.ส. บุศรา ฯ ตลอดมา ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ง.ส. สภ.อ. ปากเกร็ด เพื่อที่จะให้ดำเนินคดีกับ น.ส. บุศรา ฯ ให้ถึงที่สุด แต่ในชั้นนี้ผู้แจ้งยังไม่ขอมอบคดีโดยจะขอไปติดตามทวงถามด้วยตนเองอีก ถ้าได้รับปฏิเสธจะกลับมามอบคดีให้ พ.ง.ส. ดำเนินการถึงที่สุด จึงขอลง ป.จ.ว. ไว้เป็นหลักฐาน” ความดังกล่าวเป็นที่เห็นได้ว่าในวันที่มีการลงบันทึกประจำวันหมาย จ. ๕ นั้น เป็นการแจ้งไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น มิได้เจตนาจะให้สอบสวนดำเนินคดีแก่จำเลยตั้งแต่วันนั้น บันทึกดังกล่าวจึงมิใช่คำร้องทุกข์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๗)
พิพากษายืน

Share