คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลรัษฎากร มาตรา 12 ให้อำนาจกรมสรรพากรผู้ร้องเพื่อให้ได้รับชำระค่าภาษีอากรค้างให้มีสิทธิที่จะสั่งยึดและสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรได้โดยไม่ต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาล สิทธิดังกล่าวถือได้ว่าเป็นสิทธิอื่นๆ ซึ่งบุคคลภายนอกอาจขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินได้ ผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องขอเฉลี่ยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287, 290
ในกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามประมวลรัษฎากรยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดจากจำเลยนั้น โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกย่อมมีสิทธิที่จะโต้แย้งคัดค้านได้ว่าหนี้ที่ผู้ร้องขอเฉลี่ยนั้นไม่ชอบ ผู้ร้องไม่มีสิทธิเข้าเฉลี่ยและศาลก็มีอำนาจวินิจฉัยตามประเด็นที่ว่าจำเลยเป็นหนี้ผู้ร้องโดยชอบหรือไม่ เพื่อวินิจฉัยให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยได้หรือไม่ ข้อวินิจฉัยศาลดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการเพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินซึ่งยังคงผูกพันจำเลยอยู่ และเมื่อศาลวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงว่าหนี้อันเกิดจากการหลอกลวงของจำเลยเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานประเมินประเมินให้จำเลยเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามคำร้อง ก็ชอบที่ศาลจะยกคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องได้

ย่อยาว

คดีนี้ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามประมวลรัษฎากรยื่นคำร้องขอเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินของจำเลยที่โจทก์นำยึด
โจทก์คัดค้านว่า จำเลยมิได้เป็นหนี้ผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา ในปัญหาที่ว่าศาลมีอำนาจวินิจฉัยไม่ให้ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามประมวลรัษฎากรเข้าเฉลี่ยได้หรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๒ ให้อำนาจกรมสรรพากรผู้ร้องเพื่อให้ได้รับชำระค่าภาษีอากรค้างให้มีสิทธิที่จะสั่งยึดและสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรได้โดยไม่ต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาล สิทธิดังกล่าวถือได้ว่าเป็นสิทธิอื่น ๆ ซึ่งบุคคลภายนอกอาจขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นได้ ผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องขอเฉลี่ยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๗, ๒๙๐ และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาก็มีสิทธิโต้แย้งคัดค้านได้ว่า หนี้ที่ผู้ร้องขอเฉลี่ยนั้นไม่ชอบ ผู้ร้องไม่มีสิทธิเข้าเฉลี่ย คดีนี้โจทก์คัดค้านว่าจำเลยมิได้เป็นหนี้ผู้ร้อง ศาลจึงมีอำนาจวินิจฉัยตามประเด็นที่ว่าจำเลยเป็นหนี้ผู้ร้องโดยชอบหรือไม่เพื่อจักวินิจฉัยให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยได้หรือไม่ได้นั่นเอง หาได้เพิกถอนคำสั่งการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินซึ่งยังคงผูกพันจำเลยอยู่ไม่ เพราะตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๒๙, ๓๐ เมื่อจำเลยไม่อุทธรณ์การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยย่อมไม่มีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลและถือว่าหนี้ตามจำนวนภาษีอากรที่ประเมินนั้นเป็นอันยุติ แต่หนี้ดังกล่าวคงผูกพันจำเลยให้มีหน้าที่ต้องชำระเท่านั้นจะนำมาใช้ยันแก่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกหาได้ไม่
ในปัญหาที่ว่าศาลสมควรอนุญาตให้ผู้ร้องคดีนี้เข้าเฉลี่ยหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อบริษัท แฮลส์เบอรี่อินเตอร์ไพรส์ (ฮ่องกง) จำกัด ซึ่งจำเลยอ้างว่าเป็นบริษัทในเครือเดียวกันไม่มีอยู่จริงแล้ว การที่จำเลยให้การไว้ต่อเจ้าพนักงานประเมินว่าจำเลยรวบรวมแบบพิมพ์คำสั่งซื้อขายของลูกค้าในประเทศไทยส่งไปให้บริษัทโคบายาชิ (ฮ่องกง) โดยไม่ปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวเป็นสมาชิกตลาดกลางที่ประเทศญี่ปุ่น และที่ว่าส่งผ่านทางบริษัท แฮลส์เบอรี่อินเตอร์ไพรส์ (ฮ่องกง) จำกัด เพื่อให้ส่งต่อไปยังตลาดกลางประเทศญี่ปุ่นก็ย่อมไม่เป็นความจริงด้วย หนี้อันเกิดจากการหลอกลวงของจำเลยเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานประเมินประเมินให้จำเลยเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามคำร้องจึงเป็นหนี้ที่ไม่ชอบให้เข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินหรือเงินที่ขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินนั้น
พิพากษายืน

Share