แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด โจทก์เคยยื่นคำร้อง ขอให้ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและนัดสืบพยานโจทก์ต่อมา จำเลยขออนุญาตยื่นคำให้การอ้างว่าไม่จงใจขาดนัดศาล อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การใหม่ภายใน 8 วันครบกำหนด จำเลยไม่ยื่นคำให้การอีกดังนี้โจทก์จะต้องยื่นคำขอ ต่อศาลใหม่เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ภายในกำหนด 15 วันนับแต่ระยะเวลาที่ศาลกำหนดให้จำเลย ยื่นคำให้การสิ้นสุดลง ที่ศาลมีคำสั่งว่าจำเลย ขาดนัดยื่นคำให้การตามคำขอของโจทก์ไว้ก่อนเป็นอันเพิกถอนไปเมื่อโจทก์ไม่ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าวศาลชั้นต้น จึงชอบที่จะมีคำสั่งจำหน่ายคดีโจทก์เสียจากสารบบความการ ที่ศาลนัดสืบพยานโจทก์ไว้ก่อนหามีผลลบล้างให้โจทก์ไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยถึงวันฟ้องแก่โจทก์
จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนด โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและให้นัดสืบพยานโจทก์ วันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การขออนุญาตยื่นคำให้การ โจทก์รับว่าจำเลยไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้ภายในกำหนด ๘ วันและกำหนดวันนัดชี้สองสถานไว้ด้วย ครบกำหนดทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนกำหนดยื่นคำให้การไปอีก ๓ วัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ต่อมาจำเลยยื่นคำแถลงว่าที่ไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนดเพราะจำเลยได้ชำระหนี้ตามฟ้องให้โจทก์แล้ว โจทก์รับรองว่าจะถอนฟ้อง ขอให้ถือเอาคำแถลงเป็นคำแก้คดีของจำเลยหรือขอให้อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การแก้คดีใหม่ภายในกำหนด ๒ วัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าสำเนาให้โจทก์ ในวันนัดชี้สองสถานทนายโจทก์และทนายจำเลยมาศาลศาลชั้นต้นเห็นว่าที่จำเลยยื่นคำแถลงขอยื่นคำให้การภายใน ๒ วันนั้น ต้องทำเป็นคำร้องจึงไม่รับไว้พิจารณา เมื่อจำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนด จึงให้นัดสืบพยานโจทก์ เมื่อถึงวันนัดศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ไม่ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การภายในกำหนด ๑๕ วัน นับแต่วันครบกำหนดยื่นคำให้การจึงให้จำหน่ายคดีโจทก์เสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๘
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๘ เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้ภายในกำหนด ๘ วันนับแต่วันที่สั่งเป็นต้นไป คือวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๒๖ ซึ่งจะครบกำหนดที่จำเลยจะยื่นคำให้การได้ภายในวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๒๖ เมื่อจำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนดนี้แล้ว โจทก์จะต้องยื่นคำขอต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดภายในวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๒๖ ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้ภายในกำหนด ๘ วันดังกล่าว ที่ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การตามคำขอของโจทก์ไว้ก่อนก็เป็นอันเพิกถอนไป และที่ศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๒๖ ว่า เมื่อจำเลยไม่ยื่นคำให้การในกำหนดจึงให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๒๖ ก็หามีผลให้โจทก์ไม่ต้องปฏิบัติตามบทกฎหมายดังกล่าวเมื่อโจทก์ไม่ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การจนถึงวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๒๖ ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นได้สั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความ จึงถูกต้องชอบด้วยตัวบทกฎหมายแล้ว
พิพากษากลับ ให้จำหน่ายคดีตามคำสั่งศาลชั้นต้น