คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2051/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ในฐานะผู้ทรงเช็คฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยผู้สั่งจ่าย จำเลยให้การต่อสู้เป็นประเด็นสำคัญว่า บริษัท ม. ผู้โอนเช็คให้โจทก์ได้นำเช็คพิพาทไปขึ้นเงินแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน บริษัท ม.จึงได้ให้ ก. ลูกหนี้ผู้นำเช็คพิพาทมาชำระหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แล้วโอนเช็คให้โจทก์ โจทก์รับโอนเช็คพิพาทจากบริษัท ม. โดยคบคิดกันฉ้อฉล โดยโจทก์กับบริษัท ม. ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน โจทก์รับสมอ้างนำเช็คมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ดังนี้เป็นการให้การต่อสู้ว่าโจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบเพราะการโอนมีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล จึงเป็นคำให้การที่แสดงโดยชัดแจ้งถึงข้อต่อสู้ของจำเลยรวมทั้งเหตุแห่งการนั้น ต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยจึงมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้ดังกล่าวได้ ไม่ชอบที่ศาลจะสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจำนวน ๒ ฉบับจากจำเลยผู้สั่งจ่ายพร้อมทั้งดอกเบี้ย อ้างว่าเป็นเช็คที่จำเลยออกให้แก่ผู้มีชื่อเป็นการชำระหนี้ ผู้มีชื่อได้มอบเช็คดังกล่าวแก่บริษัทมาร์เก็ตติ้งเครดิต จำกัด และบริษัทมาร์เก็ตติ้งเครดิต จำกัด ได้มอบชำระหนี้ให้โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อประกันหนี้บุคคลอื่นซึ่งได้มอบให้นางกัลยา และนางกัลยานำไปชำระหนี้แก่บริษัทมาร์เก็ตติ้งเครดิต จำกัด บริษัทมาร์เก็ตติ้งเครดิต จำกัด เรียกเก็บเงินไม่ได้จึงให้นางกัลยาทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ ซึ่งผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ทราบเรื่องดี บริษัทมาร์เก็ตติ้งเครดิต จำกัด โอนเช็คให้โจทก์โดยฉ้อฉลเพื่อให้โจทก์รับสมอ้างนำเช็คมาฟ้องคดี เพราะโจทก์กับบริษัทมาร์เก็ตติ้งเครดิต จำกัด ไม่มีหนี้สินต่อกัน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยว่า คำสั่งงดสืบพยานของศาลชั้นต้นแล้วพิพากษาให้จำเลยแก้คดีชำระเงินตามเช็คนั้นชอบหรือไม่ คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คที่จำเลยสั่งจ่าย ขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การต่อสู้เป็นประเด็นสำคัญว่า บริษัทมาร์เก็ตติ้งเครดิต จำกัด ผู้โอนเช็คให้โจทก์ได้นำเช็คพิพาทไปขึ้นเงินแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน บริษัทมาร์เก็ตติ้งเครดิต จำกัด จึงได้ให้นางกัลยา ประชาชัย ลูกหนี้ผู้นำเช็คพิพาทมาชำระหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แล้วโอนเช็คให้โจทก์ โจทก์รับโอนเช็คพิพาทจากบริษัทมาร์เก็ตติ้งเครดิต จำกัด โดยคบคิดกันฉ้อฉล โดยโจทก์กับบริษัทมาร์เก็ตติ้งเครดิต จำกัด ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน โจทก์รับสมอ้างนำเช็คมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ดังนี้เป็นการให้การต่อสู้ว่าโจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบ เพราะการโอนมีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล ด้วยเหตุได้มีการปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นและทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แล้ว จึงนำมาโอนให้แก่โจทก์โดยไม่มีมูลหนี้ต่อกันเพื่อให้โจทก์รับสมอ้างนำมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย คำให้การของจำเลยเช่นนี้เป็นการแสดงโดยชัดแจ้งถึงข้อต่อสู้ของจำเลยรวมทั้งเหตุแห่งการนั้น ต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๗ วรรคสอง จำเลยจึงมีสิทธิที่จะนำสืบตามข้อต่อสู้ดังกล่าวได้ คดีจำต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานและพิพากษาให้จำเลยแก้คดีจึงไม่ชอบ
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อพิพากษาใหม่

Share