แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามประวัติอาการป่วยของจำเลยเคยมีอาการทางประสาทได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนเกิดเหตุจำเลยเกิดความหวาดกลัวว่าจะพูกเพื่อนยิงจึงปิดประตูขังตัวเองอยู่ในห้องมา 4 วัน โดยอดอาหารและไม่ได้หลับนอนมาตลอด ขณะเกิดเหตุจำเลยเห็นภาพหลอนมีปากกระบอกปืนมาจ้องตามช่องไม้แตกมีเสียงดังเแช็ก ๆ จึงได้จุดไฟเผาสิ่งของในห้องให้บังเกิดควันตลบแล้วจำเลยกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง ข้อเท็จจริงเพียงแค่นี้แม้ยังไม่เป็นการชัดแจ้งว่าจำเลยกระทำความผิดในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ อันจะทำให้ไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคแรกก็จริง แต่ก็แสดงว่าจำเลยมีอาการผิดปกติทางจิตใจหรือจิตบกพร่องอยู่บ้าง ซึ่งศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใกก็ได้ตามมาตรา 65 วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้วางเพลิงเผาโรงเรือนที่คนอยู่อาศัย ไฟได้ลุกไหม้บ้านของนางอุทัยและนางสาวประเสริฐกับทรัพย์สินอื่น ๆ ของนางสาวทับทิมและนางสอาดได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๑๗, ๒๑๑๘, ๙๐
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๑๘(๑) ให้ลงโทษจำคุก
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลดโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษให้เบาลงและลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประวัติผู้ป่วยของโรงพยาบาลทหารเรือสมเด็จพระปิ่นเกล้า ได้เคยรับตัวจำเลยไว้รักษาระหว่างวันที่ ๑๔ ถึง ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕+ โดยจำเลยมีอาการทางประสาท นอนไม่หลับมา ๓ วันเห็นภาพหลอนพูดคนเดียว และมีอาการอาละวาดทำลายสิ่งของ แม้เป็นเรื่องก่อนเกิดเหตุคดีนี้ แต่ย่อมนำมาเป็นข้อมูลประกอบการวินิจฉัยสภาพทางจิตใจของจำเลยในขณะกระทำผิดได้ตามพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบได้ความว่าก่อนเกิดเหตุจำเลยเกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกนายพีรวิทย์เพื่อนของตนเองยิง จำเลยจึงปิดประตูลงกลอนขังตัวเองอยู่ในห้องมา ๔ วันโดยอดอาหารและไม่ได้หลับนอนมาตลอดขณะเกิดเหตุจำเลยเห็นภาพหลอนมีปากกระบอกปืนมาจ้องตามช่องไม้แตกเป็นประจำมีเพียงดังแช็ก ๆ จำเลยจึงจุดไฟเผาสิ่งของในห้องให้บังเกิดควันตลบแล้วจำเลยกระโดดหนีออกทางหน้าต่างวิ่งออกจากบ้านมา เมื่อพบตำรวจก็บอกว่าจำเลยเป็นผู้วางเพลิงเอง ข้อเท็จจริงเพียงแค่นี้แม้ยังไม่เป็นการชัดแจ้งว่า จำเลยกระทำความผิดในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ อันจะทำให้ไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๕ วรรคแรกก็จริง แต่การที่จำเลยเกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกเพื่อนของตนเองฆ่าและมองเห็นภาพหลอนว่ามีปากกระบอกปืนมาจ้องตามช่องไม้แตก และมีเสียงดังแช็ก ๆ นั้น แสดงว่าจำเลยมีอาการผิดปกติทางจิตใจหรือจิตบกพร่องอยู่บ้าง ซึ่งศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๕ วรรคสอง การที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยน้อยกว่าศาลชั้นต้นโดยยังอยู่ในระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดของจำเลยเช่นนี้ จึงหาเป็นผิดกฎหมายหรือการเกินสมควรแต่อย่างใดไม่
พิพากษายืน