คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2392/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีเดิมโจทก์ฟ้องเกี่ยวกับสัญญาแบ่งผลประโยชน์ตึกแถวพิพาทว่าจำเลยผิดสัญญา ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยอ้างว่าโจทก์นำสืบพยานหลักฐานได้ไม่สมตามฟ้องและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยผิดสัญญาอย่างใด จึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัย พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ ในคดีเดิมศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเพราะเหตุโจทก์มิได้บรรยายฟ้อง ถึงข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าจำเลยผิดสัญญาข้อ ไหนอย่างไร หาได้วินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญาดังกล่าว หรือไม่ คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดสัญญา อย่างไร ซึ่งยังไม่ได้รับการวินิจฉัยในคดีก่อน กรณีจึงเป็นคนละประเด็นกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาแบ่งเงินจากการขายห้องแถวต่อมาจำเลยผิดสัญญาข้อ ๑ โดยเมื่อขายห้องแถวได้แล้วไม่แบ่งเงินให้แก่โจทก์ตามสัญญาจึงขอให้ศาลพิพากษาบังคับ
จำเลยให้การว่า สัญญาที่ทำไว้ได้ยกเลิกกันไปแล้ว จำเลยจึงไม่ผิดสัญญาตามฟ้อง และตัดฟ้องว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาและพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในคดีเดิมโจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับตึกแถวพิพาทว่า จำเลยสร้างตึกแถว ๑๔ คูหาในที่ดินของโจทก์ โดยทำสัญญาแบ่งผลประโยชน์กันตามหนังสือสัญญาลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๒๑ แล้วจำเลยผิดสัญญา ขอให้ศาลบังคับ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยอ้างว่าพยานหลักฐานโจทก์ไม่สืบให้สมตามฟ้อง และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยผิดสัญญาอย่างใด จึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัยพิพากษายกฟ้อง เห็นว่าในคดีเดิมศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเพราะเหตุ โจทก์มิได้บรรยายฟ้องถึงข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าจำเลยผิดสัญญาข้อไหนอย่างไรหาได้วินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญาฉบับลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๒๑ นั้นหรือไม่ส่วนในคดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องไว้ว่าจำเลยได้กระทำผิดสัญญาอย่างไรพร้อมทั้งคำขอบังคับ ซึ่งยังมิได้รับการวินิจฉัยมาในคดีก่อนว่าจำเลยผิดสัญญาหรือไม่ กรณีเป็นคนละประเด็นกัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๘
พิพากษายืน

Share