คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1703/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลพิพากษาให้จำเลยคืนเช็คพิพาทให้โจทก์ แต่จำเลยไม่สามารถปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ เนื่องจากเช็คพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลอื่นไปแล้วกรณียังถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ อันจะเป็นเหตุให้กักขังจำเลยได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองคืนเช็คแก่โจทก์ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ คืนเช็คแก่โจทก์ส่วนจำเลยที่ ๒ ไม่ต้องรับผิด คดีถึงที่สุด
จำเลยที่ ๑ ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ศาลหมายเรียกมาสอบถาม จำเลยแถลงว่า ไม่ทราบว่าเช็คพิพาทตกอยู่แก่ผู้ใด ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยที่ ๑ ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับจึงมีคำสั่งกักขังจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ ประกันตัวไปแล้วต่อมาได้แถลงต่อศาลว่าเช็คพิพาทอยู่ในสำนวนของศาลแพ่ง คดีหมายเลขแดงที่ ๑๔๔๑๐/๒๕๒๑ ระหว่างนางสาวหยกฮั้ว แซ่เบ๊ โจทก์ นายเจริญ รุ้งแสงเจริญทิพย์ที่ ๑ นางจงเค็ง แซ่เบ๊ ที่ ๒ จำเลย โดยนางสาวหยกฮั้วได้อ้างส่งไว้ต่อศาล จำเลยที่ ๑ ไม่สามารถนำเช็คพิพาทคืนโจทก์ได้ ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกักขังจำเลยที่ ๑ โจทก์แถลงว่าจำเลยที่ ๑ โอนเช็คพิพาทให้บุคคลภายนอก ระหว่างที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ บุคคลภายนอกจึงนำเช็คพิพาทมาฟ้องโจทก์ และศาลพิพากษาให้โจทก์ใช้เงินตามเช็ค คดีถึงที่สุดและอยู่ในระหว่างการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่าจำเลยที่ ๑ ต้องนำเช็คตามที่ระบุไว้ในคำบังคับมาคืนให้โจทก์ ให้หมายขังจำเลยที่ ๑ ไว้ก่อน
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้ขังจำเลยที่ ๑
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เมื่อโจทก์ต้องชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่นางสาวหยกฮั้วตามคำพิพากษา เช็คพิพาทจึงเป็นกรรมสิทธิ์ของนางสาวหยกฮั้ว จำเลยที่ ๑ ย่อมไม่สามารถจะนำมาคืนให้โจทก์ เพราะสภาพแห่งการบังคับคดีไม่เปิดช่องให้บังคับได้ หากโจทก์ได้รับความเสียหายก็ชอบที่จะดำเนินการบังคับกับจำเลยในทางอื่น ตามพฤติการณ์แห่งคดียังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๑ จงใจไม่ปฏิบัติตามคำบังคับจึงไม่มีเหตุที่จะกักขังจำเลยที่ ๑
พิพากษายืน

Share