คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357 บัญญัติว่า “ท่านใหัสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากัน” นั้น ย่อมนำสืบหักล้างได้ว่าความจริงมีอยู่อย่างไร และศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่า ฝ่ายใด้มีส่วนเป็นเจ้าของในส่วนใดเท่าใด หาเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายไม่
ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยครอบครองที่ดินส่วนของจำเลยมา 10 ปีแล้วย่อมได้กรรมสิทธิ์นั้น เมื่อจำเลยให้การว่าจำเลยได้รับโอนที่ดินพิพาทจากบิดาเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2482 แล้วครอบครองตลอดมา ตามคำให้การนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ยกประเด็นขึ้นอ้างแล้วว่าจำเลยครอบครองที่ดินมาเกิน 10 ปี ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยนอกประเด็น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๘๒ นายโต๊ะยกที่ดินโฉนดที่ ๒๘๓๖ เนื้อที่ ๒๒๙ ไร่ ๑ งาน ให้นางมณีกับจำเลยคนละครึ่ง นางมณีครอบครองที่ดินส่วนของตน เนื้อที่ ๑๑๔ ไร่ ๒ งาน ๕๐ ตารางวา ตลอดมาจนถึงแก่กรรม เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๙๗ นายสุลัยมานสามีได้รับมรดกที่ดินส่วนของนางมณี เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๔๙๘ และได้ยกที่ดังกล่าวให้บุตร ๖ คน ซึ่งรวมทั้งโจทก์ด้วยเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๑๗ และยกให้บุตรอีก ๒ คน เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๑๗ โจทก์กับพี่น้องซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินส่วนของนางมณีร่วมกันประสงค์จะแบ่งแยกที่ดิน แต่จำเลยไม่ยอมแบ่งแยก ขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยให้แบ่งแยกที่ดิน หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า นายโต๊ะได้โอนที่ดินให้นางมณี ๑๐๐ ไร่ ให้จำเลย ๑๒๙ ไร่ ๑ งาน เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๘๒ นางมณีกับจำเลยต่างครอบครองที่ดินตามส่วนของตนตลอดมา ที่ดินของนางมณีต่อมาตกเป็นของโจทก์กับพี่น้องอีก ๗ คน ดังนั้น โจทก์กับพวกจึงเป็นเจ้าของที่ดินเพียง ๑๐๐ ไร่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้แบ่งที่ดินโฉนดที่ ๒๘๓๖ ให้โจทก์กับพวกฝ่ายหนึ่งกับจำเลยฝ่ายหนึ่ง โดยให้จำเลยได้ที่ดินส่วนตะวันตกภายในเส้นสีม่วงตามแผนที่พิพาท ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีมิได้บรรยายส่วนของเจ้าของรวมไว้ในโฉนด แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๕๗ จะสันนิษฐานว่าเจ้าของรวมมีส่วนเท่ากันก็ตาม จำเลยก็มีสิทธินำสืบ และศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่า จำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของในส่วนใดเท่าใด หาเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายไม่
โจทก์ฎีกาว่าที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยครอบครองที่ดินส่วนของจำเลยมา ๑๐ ปีแล้วย่อมได้กรรมสิทธิ์ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นนั้น เห็นว่าจำเลยให้การว่าจำเลยได้ยกประเด็นขึ้นอ้างแล้วว่าจำเลยครอบครองที่ดินมาเกิน ๑๐ ปี ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยนอกประเด็น
พิพากษายืน

Share