คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2259/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำไก่ซึ่งฆ่าแล้วจำนวน 100 ตัว ราคา 3,800 บาท ของผู้เสียหายซึ่งมอบหมายให้จำเลยครอบครองแล้วนำไปขายให้กับประชาชนทั่วไป แต่เมื่อจำเลยนำไก่ไปขายหมดแล้ว จำเลยได้บังอาจเบียดบังเอาเงิน 3,800 บาท ของผู้เสียหายไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ดังนี้ ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้องคงได้ความเพียงว่า จำเลยนำไก่ซึ่งฆ่าแล้วของผู้เสียหาย ซึ่งมอบให้จำเลยครอบครองแล้วนำไปขายให้กับประชาชนทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้ความว่าผู้เสียหายมอบหมายให้จำเลยเป็นตัวแทนขายไก่ กรณีจึงอาจเป็นได้ว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยรับไก่ไปขายอย่างเป็นของจำเลยเองก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ เงินที่ขายได้ก็เป็นของจำเลย จำเลยเป็นแต่เพียงลูกหนี้ที่จะต้องชำระเงินจำนวนหนึ่งแก่ผู้เสียหายเท่านั้น ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้องจะว่าจำเลยยักยอกเงินค่าไก่ยังไม่ได้ แม้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้นำไก่ซึ่งฆ่าแล้วจำนวน๑๐๐ ตัว ราคา ๓,๘๐๐ บาท ของนายอนุชิตผู้เสียหาย ซึ่งมอบหมายให้จำเลยครอบครองแล้วนำไปขายให้กับประชาชนทั่วไปแต่เมื่อจำเลยนำไก่ไปขายหมดแล้ว จำเลยได้บังอาจเบียดบังเอาเงิน ๓,๘๐๐ บาท ของผู้เสียหายไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒ และขอให้จำเลยคืนเงินจำนวน ๓,๘๐๐ บาทแก่ผู้เสียหาย
ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยาบันทึกคำฟ้องและพิเคราะห์คำฟ้องของโจทก์แล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า กรณีเรื่องนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอกเงินค่าไก่ที่ขายได้ แต่ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้องคงได้ความเพียงว่า จำเลยนำไก่ซึ่งฆ่าแล้วของนายอนุชิต ซึ่งมอบหมายให้จำเลยครอบครองแล้วนำไปขายให้กับประชาชนทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้ความว่า นายอนุชิตได้มอบหมายให้จำเลยเป็นตัวแทนขายไก่ กรณีจึงอาจเป็นได้ว่านายอนุชิตยินยอมให้จำเลยรับไก่ไปขายอย่างเป็นของจำเลยเองก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ เงินที่ขายได้ก็เป็นของจำเลย จำเลยเป็นแต่เพียงลูกหนี้ที่จะต้องชำระเงินจำนวนหนึ่งแก่นายอนุชิตเท่านั้น ศาลฎีกาจึงเห็นว่าข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้องจะว่าจำเลยยักยอกเงินค่าไก่ยังไม่ได้ แม้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
พิพากษายืน

Share