แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยร่วมเป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุ ความรับผิดของจำเลยร่วมเกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัย การที่โจทก์ฟ้องหรือขอให้ศาลเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีเพื่อใช้ค่าสินไหมทดแทน ไม่ใช่ฟ้องในมูลหนี้ละเมิด แต่โจทก์ฟ้องโดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาประกันภัย จึงมีอายุความ 2 ปี นับแต่วันเกิดวินาศภัยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882 วรรคแรก จะนำอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 448 วรรคแรก บังคับไม่ได้
เมื่อฟังว่า จำเลยที่ 3 ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดเนื่องจากฟ้องโจทก์ขาดอายุความเรียร้องจากจำเลยที่ 3 แล้ว จำเลยร่วมซึ่งเป็นผู้รับประกันภัย ก็ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นนิติบุคคลมีจำเลยที่ ๒ เป็นผู้จัดการประเภทไม่จำกัดความรับผิด จำเลยที่ ๓ เป็นนิติบุคคลเชิดจำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนในการขนส่งน้ำมัน ลูกจ้างของจำเลยที่ ๑ ขับรถโดยประมาทในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๑ ชนรถยนต์โจทก์เสียหาย และทำให้โจทก์บาดเจ็บเสียหาย ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ให้การว่า คนขับรถเกิดเหตุมิใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ ๑ แต่เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นเจ้าของรถ เหตุเกิดเพราะความประมาทของโจทก์ ค่าเสียหายสูงเกินไป คดีขาดอายุความ
จำเลยที่ ๓ ให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ จำเลยที่ ๑ รับจ้างขนส่งน้ำมันให้จำเลยที่ ๓ มิใช่ตัวแทน เหตุเกิดเพราะความประมาทของโจทก์ โจทก์มิได้บาดเจ็บและเสียหายมาดังฟ้อง
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นอนุญาตตามคำร้อง ของโจทก์ ให้เรียกบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด เจ้ามาเป็นจำเลยร่วม
จำเลยร่วมให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เหตุเกิดมิใช่เพราะความประมาทของผู้ขับรถฝ่ายจำเลย โจทก์มิได้บาดเจ็บและเสียหายมากตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริง แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า สำหรับคดีจำเลยร่วมฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยร่วมเป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุ ความรับผิดของจำเลยร่วมเกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัย การที่โจทก์ฟ้องหรือขอให้ศาลเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีเพื่อใช้ค่าสินไหมทดแทน ไม่ใช่ฟ้องในมูลหนี้ละเมิด แต่โจทก์ฟ้องโดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาประกันภัย จึงมีอายุความ ๒ ปี นับแต่วันเกิดวินาศภัยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๘๒ วรรคแรก จะนำอายุความ ๑ ปี ตามมาตรา ๔๔๘ วรรคแรก บังคับไม่ได้ คดีนี้เหตุเกิดวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๑๗ โจทก์ขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๑๙ ยังไม่เกิน ๒ ปี คดีโจทก์สำหรับจำเลยร่วมจึงไม่ขาดอายุความ อย่างไรก็ตามเมื่อฟังว่า จำเลยที่ ๓ ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดเนื่องจากฟ้องโจทก์ขาดอายุความเรียกร้องจากจำเลยที่ ๓ แล้ว จำเลยร่วมซึ่งเป็นผู้รับประกันภัย ก็ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๘๗ ที่ศาลล่างยกฟ้องจำเลยร่วม ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ในผล
พิพากษายืน