คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษฐานมีกันชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 76 จำคุกหนึ่งปีหกเดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นลงโทษฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามบทกฎหมายเดียวกัน ลงโทษจำคุกหนึ่งปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ฎีกาในปัญหาว่าจำเลยมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีกัญชาซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ หนัก ๘๐ กรัม ไว้เพื่อจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไปและมีอุปกรณ์ในการเสพยาเสพติดไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕, ๖, ๒๖, ๗๖, ๑๐๒, ๑๐๓ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗ ๕, ๖, ๒๖, ๗๖, ๑๐๒, ๑๐๓ ลงโทษฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก สองปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุกหนึ่งปีหกเดือน ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๒๖ วรรคแรก๗๖, ๑๐๒, ๑๐๓ ลงโทษจำคุกหนึ่งปีหกเดือน จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกหนึ่งปี นอกจาที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามบทกฎหมายเดียวกัน ลงโทษจำคุกหนึ่งปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘
ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาว่าจำเลยมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้
พิพากษายกฎีกาโจทก์

Share