แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยมาพร้อมกับพวก จำเลยได้ทะเลาะกับผู้ตายทั้งยกเก้าอี้จะเข้าตีผู้ตายกับพวกก่อน เมื่อพวกของจำเลยได้ยิงผู้ตาย 1 นัด จำเลยได้ร้องบอกพวกว่ายิงซ้ำมันเลย ยิงซ้ำมันเลย คำพูดของจำเลยส่อแสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายเมื่อพวกของจำเลยยิงผู้ตายแล้ว จำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปด้วยกัน การกระทำของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการร่วมมือกับพวกจำเลยฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดเป็นตัวการร่วมกระทำผิดด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องจำเลยกับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายหลายนัดโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยใช้ให้นายสุพลยิงผู้ตายเป็นการใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๓ ให้จำคุก ๑๕ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยมาพร้อมกับพวกจำเลยได้ทะเลาะกับผู้ตายทั้งยกเก้าอี้จะเข้าตีผู้ตายกับพวกก่อน เมื่อพวกของจำเลยได้ยิงผู้ตาย ๑ นัด แล้วจำเลยได้ร้องบอกพวกว่ายิงซ้ำมันเลย ยิงซ้ำมันเลย คำพูดของจำเลยส่อแสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย เมื่อพวกจำเลยยิงผู้ตายแล้ว จำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปด้วยกัน การกระทำของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการร่วมมือกับพวกจำเลยฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกระทำผิดด้วย ไม่ใช่เป็นการใช้ผู้อื่นกระทำความผิด ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน