คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ชั้นไต่สวนมูลฟ้องยกฟ้องโจทก์เพราะเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าทนายลงชื่อในฟ้องแทนโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่ชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (7) พิพากษายืน โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องโดยให้โจทก์ลงลายมือชื่อในคำฟ้องและประทับรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้ เป็นฎีกาที่มิได้ยกเหตุขึ้นคัดค้านข้อชี้ขาดของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องอย่างใด จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ โดยออกเช็คชำระหนี้ให้แก่โจทก์รวม ๘ ฉบับ โจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินแล้วถูกธนาคารปฏิเสธ ศาลชึ้นต้นไตสวนมูลฟ้องแล้วให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาสำหรับเช็คฉบับเดียว
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ (๗) โจทก์ต้องลงลายมือชื่อในฟ้องด้วยตนเอง แต่ในฟ้องทนายความของโจทก์เป็นผู้ลงชื่อแทน จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่จะรับไว้พิจารณา พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์มิได้ลงลายมือชื่อในฟ้อง แต่ทนายความของโจทก์เป็นผู้ลงชื่อฟ้องแทน ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่โจทก์ฎีกาว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๑ บัญญัติ “ถ้าฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ศาลสั่งโจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้อง หรือยกฟ้องหรือไม่ประทับฟ้อง ฯลฯ ” และเพื่อประโยขน์แห่งความยุติธรรม ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้อง โดยให้โจทก์ลงลายมือชื่อในคำฟ้องและประทับรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาของโจทก์ มิได้ยกเหตุขึ้นคัดค้านข้อชี้ขาดของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องอย่างใด จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๖ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาของโจทก์

Share