แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สินค้าที่บรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึก ตามบัญชี 1 หมวด 1 ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2509 ทนายความโดยตรงถึงการจำหน่ายสินค้าในรูปลักษณะบรรจุไว้ในภาชนะหรือในหีบห่อผนึก หาใช่หมายความถึงการจำหน่ายสินค้าบรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึกเพื่อการเก็บรักษาสินค้าไม่ ดังนั้น การที่โจทก์เก็บลูกกวาดซึ่งทำด้วยน้ำตาลไม่มีกระดาษห่อหุ้มไว้ในปีบเพื่อมิให้ถูกอากาศชื้นเสียหาย จึงเป็นการเก็บรักษาสินค้า และเมื่อโจทก์จำหน่ายสินค้า โจทก์ก็นำลูกกวาดออกจากปีบมาชั่งขาย มิได้จำหน่ายไปทั้งภาชนะหรือหีบห่อผนึกสินค้าของโจทก์จึงไม่เข้าลักษณะสินค้าที่บรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึก ตามบัญชี 1 หมวด 1 (4) ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว แต่เป็นสินค้าที่ไม่ได้ระบุไว้ตามบัญชีที่ 1 ซึ่งตามมาตรา 4 (3) แห่งพระราชกฤษฎีกานั้นให้เรียกเก็บภาษีการค้าร้อยละ 0.5 ของรายรับ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า  โจทก์จำหน่ายลูกกวาดไม่ได้บรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึกชอบที่จะเสียภาษีการค้าร้อยละ ๑.๕ ของรายรับ  แต่เจ้าพนักงานประเมินให้เสียภาษีในอัตราร้อยละ ๕  จึงขอให้เพิกถอน
จำเลยให้การว่า  การประเมินภาษีให้โจทก์เสียเพิ่มชอบแล้ว  ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งประเมิน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า   ตามบัญชี ๑  หมวด ๑ (๔)  ท้ายพระราชกฤษฎีกา ฯ (ฉบับที่ ๒๑)  พ.ศ. ๒๕๐๙  มีข้อความว่า “นมสด  ผลิตภัณฑ์ชงดื่มอาหารกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง  ลูกกวาด ฯลฯ  ทั้งนี้เฉพาะที่บรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึก  หรือที่บรรจุภาชนะหรือหีบห่อที่มีชื่อการค้าหรือเครื่องหมายการค้า”  ศาลฎีกาเห็นว่า  ภาษีการค้าที่เรียกเก็บเป็นภาษีการค้าประเภทการขายของการบรรจุไว้ในภาชนะหรือในหีบห่อผนึก  หาใช่หมายถึงการนำสินค้าบรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึกเพื่อการเก็บรักษาสินค้าไม่  การที่โจทก์เก็บลูกกวาดซึ่งทำด้วยน้ำตาลไม่มีกระดาษห่อหุ้มไว้ในปีบ  ก็เพื่อมิให้ลูกกวาดลูกอากาศชื้นเสียหาย  จึงเป็นการบรรจุภาชนะเพื่อการเก็บรักษาสินค้า  แต่เมื่อโจทก์จำหน่ายสินค้า  โจทก์นำลูกกวาดออกจากปีบมาชั่งขาย  หรือบางครั้งลูกค้าจะยืมปีบของโจทก์ไปก่อนและนำมาคืนในภายหลัง  โดยที่โจทก์มิได้จำหน่ายสินค้าไปทั้งภาชนะหรือหีบห่อผนึกสินค้าของโจทก์จึงหาเข้าลักษณะเป็นสินค้าที่บรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึกตามบัญชีที่ ๑  หมวด ๑ (๔) ท้ายพระราชกฤษฎีกา ฯ  (ฉบับที่  ๒๑)  พ.ศ. ๒๕๐๙  ไม่  แต่เป็นสินค้าที่มิได้ระบุไว้ตามบัญชีที่ ๑  ซึ่งตามมาตรา ๔ (๓)  แห่งพระราชกฤษฎีกา ฉบับดังกล่าวให้เรียกเก็บภาษีการค้าร้อยละ ๑.๕ ของรายรับ  การเสียภาษีการค้าของโจทก์ถูกต้อง  ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว  ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน   ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ
