แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยขุดและล้อมรั้วปิดกั้นทางสาธารณะซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของนาโจทก์ตามสำนวนคดีอาญา เฉพาะแต่รัฐเท่านั้นที่ฟ้องจำเลยได้ โจทก์มิใช่ผู้เสียหายในความผิดดังกล่าว การที่โจทก์จะฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าสินไหมทดแทนได้เพียงไรหรือไม่ขึ้นอยู่กับโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จากการที่จำเลยขุดและล้อมรั้วปิดกั้นทางสาธารณะเพียงไรหรือไม่ การฟ้องคดีแพ่งจึงมิได้อาศัยผลแห่งคดีอาญาดังกล่าว จึงมิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวกับคดีอาญา ไม่อยู่ในบังคับแห่งอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสาม และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 168 เมื่อโจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกินหนึ่งปีนับแต่วันทำละเมิด คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามมาตรา 448 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๑๗ ถึง ๗ สิงหาคม ๒๕๑๗ จำเลยได้ขุดทางสาธารณประโยชน์ที่มีไว้สำหรับประชาชนและยานพาหนะสัญจรไปมาเป็นเนื้อที่ ๔ ตารางวา แล้วล้อมรั้วปิดกั้นห้ามมิให้โจทก์เข้าไปทำนาได้ตามปกติ ศาลได้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์และกีดขวางทางสาธารณะตามสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๙๐๘/๒๕๑๘ ของศาลชั้นต้น การกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์เข้าไปทำนาไม่ได้ ๑ ปี ๖ เดือน ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า ไม่ได้ขุดหรือปิดทาง หากแต่นางสำรวยเป็นผู้ขุด แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำนาของโจทก์ โจทก์ทำนาไม่ได้เพราะไม่มีน้ำตามธรรมชาติ และเจ้าของนาข้างเคียงไม่ยอมให้โจทก์วิดน้ำผ่านมา โจทก์ฟ้องคดีเกินกว่าหนึ่งปี ขาดอายุความแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๑๑,๒๕๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
คดีคงมีปัญหามาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาว่า คดีนี้เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๙๐๘/๒๕๑๘ ของศาลชั้นต้นหรือไม่ และคดีโจทก์ขาดอายุความแล้วหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยขุดทางและล้อมรั้วปิดกั้นทางสาธารณะซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของนาโจทก์ตามสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๙๐๘/๒๕๑๘ ของศาลชั้นต้นนั้น เฉพาะแต่รัฐเท่านั้นที่ฟ้องจำเลยได้ โจทก์มิใช่ผู้เสียหายในความผิดดังกล่าว การที่โจทก์จะฟ้องคดีนี้เรียกค่าสินไหมทดแทนได้เพียงใดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษจากการที่จำเลยขุดและล้อมรั้วปิดกั้นทางสาธารณะเพียงใดหรือไม่ การฟ้องคดีนี้จึงมิได้อาศัยผลแห่งคดีอาญาดังกล่าว ฉะนั้นคดีนี้จึงมิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๙๐๘/๒๕๑๘ ของศาลชั้นต้น จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๕๑ วรรคสาม และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๘ ตามคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นเมื่อมาฟ้องทางแพ่งต้องนับอายุความตามหลักทั่วไปในเรื่องอายุความแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยเฉพาะกรณีเรื่องนี้เป็นเรื่องละเมิด โจทก์ต้องฟ้องภายในหนึ่งปีนับแต่วันรู้ถึงการละเมิดหรือรู้ตัวผู้กระทำผิด เมื่อโจทก์มาฟ้องคดีนี้เกินหนึ่งปีนับแต่วันทำละเมิด คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามมาตรา ๔๔๘ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของโจทก์ต่อไป
พิพากษายืน