คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์ แม้โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ถ้าศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับฟ้องของโจทก์ คดีก็ต้องกลับไปสู่ศาลชั้นต้นที่จะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไป ศาลอุทธรณ์ยังไม่อาจสั่งหรือพิพากษาให้เป็นไปตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ ดังนั้น การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองก่อนพิพากษาต่อศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จึงไม่อาจมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้โจทก์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำรั้วคอนกรีตตลอดแนวระหว่างที่ดินโจทก์จำเลยทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้ทางเดินเข้าออกสู่ถนนใหญ่ได้ ขอให้จำเลยเปิดทางและใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว และยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้จำเลยเปิดทางพิพาทตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้จำเลยเปิดทางพิพาทตามคำร้องของโจทก์ระหว่างอุทธรณ์
จำเลยฎีกาว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกคำสั่งของศาลอุทธรณ์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์ทั้งสามแม้โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ถ้าศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับฟ้องของโจทก์ คดีก็ต้องกลับไปสู่ศาลชั้นต้นที่จะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไป การที่โจทก์ทั้งสามยื่นคำร้องขอคุ้มครองก่อนพิพากษาต่อศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์สั่งให้ตามคำขอของโจทก์ยังเป็นการไม่ถูกต้อง เพราะในชั้นนี้ศาลอุทธรณ์ยังไม่อาจสั่งหรือพิพากษาให้เป็นไปตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ทั้งสามได้ ฉะนั้นการที่ศาลอุทธรณ์สั่งคุ้มครองชั่วคราวให้โจทก์ทั้งสามในกรณีนี้ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับเป็นว่า ให้ยกคำร้องของโจทก์ทั้งสามในเรื่องนี้เสีย

Share