คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3777/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ก่อนศาลชั้นต้นประทับฟ้องมิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเป็นคู่ความ การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลยย่อมไม่มีสิทธิที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เบิกความเท็จในการเป็นพยานโจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๖๗๕๘/๒๕๒๖ ของศาลแพ่ง ซึ่งข้อความที่จำเลยเบิกความนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗
ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รอคดีนี้ไว้ฟังผลคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๖๗๕๘/๒๕๒๖ เสียก่อน เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วให้โจทก์แถลงเพื่อจะได้ยกคดีนี้ขึ้นพิจารณาต่อไป และให้จำหน่ายคดีนี้เสียชั่วคราว
โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่า คำสั่งให้รอคดีเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามอุทธรณ์ จึงไม่รับเป็นอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ตกอยู่ภายใต้บังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕ วรรคสามตอนท้ายซึ่งบัญญัติว่า ก่อนที่ศาลประทับฟ้อง มิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น ฉะนั้นในชั้นนี้จำเลยจึงไม่มีฐานะเป็นคู่ความ การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลยย่อมไม่มีสิทธิที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ได้
พิพากษาให้ยกฎีกาของจำเลย

Share