คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญากู้ระหว่างโจทก์กับจำเลยมีกำหนดเวลาชำระหนี้ไว้แน่นอน คือภายในวันที่ 20 กรกฎาคม 2528 เมื่อจำเลยไม่ได้ชำระหนี้ให้โจทก์ในวันดังกล่าว อายุความจึงเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2528 อันเป็นวันที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องเป็นต้นไป ส่วนที่จำเลยนำเงินฝากประจำเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญาและยินยอมให้นำจำนวนเงินดังกล่าวไปหักทอนหนี้หรือชำระหนี้ได้ทันทีเมื่อครบกำหนดชำระเงินตามสัญญาแล้วจำเลยผิดนัด การที่โจทก์ไม่นำเงินฝากประจำของจำเลยมาชำระหนี้ในทันทีกลับปล่อยให้ล่วงเลยไปถึง 6 เดือน แล้วจึงนำเงินฝากดังกล่าวมาชำระหนี้นั้นก็เป็นเรื่องการปฏิบัติงานของพนักงานโจทก์ ไม่มีผลทำให้วันเริ่มนับอายุความคดีนี้เปลี่ยนแปลงไปได้ โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2539 จึงเกิน 10 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินจำนวน 76,574.43 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 19 ต่อปี จากต้นเงิน 27,604.05 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า โจทก์คิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด เอกสารเกี่ยวกับหนี้ทั้งหมดโจทก์ทำปลอมขึ้น โดยจำเลยไม่รู้เห็น โจทก์นำคดีมาฟ้องเกินกำหนด 10 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท มีปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาโจทก์ ที่ศาลชั้นต้นรับมาแต่เพียงว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ซึ่งในการวินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 238 ประกอบมาตรา 247 จากข้อเท็จจริงจะเห็นได้ว่าสัญญากู้ระหว่างโจทก์กับจำเลยมีกำหนดเวลาชำระหนี้ไว้แน่นอน คือต้องชำระให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 กรกฎาคม 2528 เมื่อปรากฏว่าในวันดังกล่าวจำเลยไม่ได้ชำระหนี้ให้โจทก์ อายุความคดีนี้จึงเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2528 อันเป็นวันที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องเป็นต้นไป ส่วนที่จำเลยนำเงินฝากประจำบัญชีเงินฝากเลขที่ 3722 เป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญาและยินยอมให้นำจำนวนเงินดังกล่าวไปหักทอนหนี้หรือชำระหนี้ได้ทันทีนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยยินยอมให้นำเงินดังกล่าวมาชำระหนี้ให้โจทก์ ซึ่งโจทก์สามารถนำมาชำระหนี้ได้ทันที เมื่อครบกำหนดชำระเงินตามสัญญาแล้วผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ การที่โจทก์ไม่นำเงินฝากประจำของจำเลยมาชำระหนี้ในทันทีที่ครบกำหนดชำระเงินตามสัญญา กลับปล่อยให้ล่วงเลยไปถึง 6 เดือน แล้วจึงนำเงินฝากดังกล่าวมาหักชำระหนี้นั้นก็เป็นเรื่องการปฏิบัติงานของพนักงานโจทก์ไม่มีผลทำให้วันเริ่มนับอายุความคดีนี้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องเริ่มนับแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2528 โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2539 จึงเกิน 10 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share