คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยทั้งสามในฐานะทายาทโดยธรรมของ ท. ให้ชำระหนี้และไถ่ถอนจำนองที่ ท. ได้จำนองที่ดินเป็นประกันหนี้เงินกู้ไว้หลังจากที่ ท. ถึงแก่ความตายไปแล้วเกิน 1 ปี ซึ่งทำให้คดีขาดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 1754 วรรคสาม ก็ตาม แต่โจทก์ผู้รับจำนองยังสามารถใช้สิทธิบังคับให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้โจทก์เอาจากทรัพย์สินที่จำนองได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/27
แม้จะไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ทนายโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนอง แต่เมื่อทนายโจทก์ได้บอกกล่าวบังคับจำนองในนามของโจทก์และโจทก์ยอมรับเอาการบังคับจำนองที่ทนายโจทก์ได้บอกกล่าวในนามของโจทก์แล้วย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้ให้สัตยาบันตาม ป.พ.พ. มาตรา 823 และถือว่าได้มีการบอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยทั้งสามแล้ว
ท. เป็นหนี้โจทก์อยู่และถึงแก่ความตายลง จำเลยทั้งสามซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของ ท. ย่อมรับไปทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่อโจทก์ โจทก์มีสิทธิที่จะเรียกร้องบังคับชำระหนี้เอาจากจำเลยทั้งสามในฐานะทายาทโดยธรรมได้เท่าที่ไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ได้รับตาม ป.พ.พ. มาตรา 1601 ส่วนการที่จำเลยทั้งสามจะได้รับมรดกของ ท. และ ท. จะมีทรัพย์มรดกหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันในชั้นบังคับคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามในฐานะทายาทของนางทองคำร่วมกันชำระเงินกู้ยืม พร้อมดอกเบี้ย นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยทั้งสามไม่ชำระให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 7520 ตำบลกระโทก อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้
จำเลยทั้งสามให้การว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน พร้อมดอกเบี้ย แก่โจทก์ แต่จำเลยทั้งสามไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดก ที่ตกทอดได้แก่ตน หากจำเลยทั้งสามไม่ชำระให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 7520 ตำบลกระโทก อำเภอโชยชัย จังหวัดนครราชสีมา ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว วินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามในฐานะทายาทโดยธรรมของผู้ตายให้ชำระหนี้และไถ่ถอนจำนองที่ผู้ตายได้จำนองที่ดินเป็นประกันหนี้เงินกู้ไว้ แม้หากจะฟังข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยทั้งสามนำสืบว่า โจทก์ฟ้องคดีหลังจากนางทองคำถึงแก่ความตายไปแล้วเกิน 1 ปี คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสามแล้วก็ตาม แต่บทบัญญัติดังกล่าวยกเว้นมิให้บังคับในกรณีสิทธิเรียกร้องขอเจ้าหนี้ตามมาตรา 193/27 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้รับจำนอง ผู้รับจำนำผู้ทรงสิทธิยึดหน่วง หรือผู้ทรงบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้อันตนได้ยึดถือไว้ ยังคงมีสิทธินั้นบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนอง จำนำ หรือที่ได้ยึดถือไว้แม้ว่าสิทธิเรียกร้องส่วนที่เป็นประธานจะขาดอายุความแล้วก็ตาม แต่จะใช้สิทธินั้นบังคับให้ชำระดอกเบี้ยที่ค้างย้อนหลังเกินห้าปีขึ้นไปไม่ได้ เห็นได้ว่า แม้คดีขาดอายุความแล้วก็ดี แต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/27 ก็ยังยอมให้โจทก์ผู้รับจำนองใช้สิทธิบังคับเอาจากทรัพย์สินที่จำนองได้ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยทั้งสามในฐานะทายาทโดยธรรมของนางทองคำเพื่อชำระหนี้โจทก์จากทรัพย์สินที่จำนองได้ ฎีกาของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น…
พิพากษายืน

Share