แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องและมีคำขอให้นำโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษของจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ และจำเลยที่ 1 ให้การรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษ เมื่อในระหว่างที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อน จำเลยที่ 1 ได้มากระทำความผิดในคดีนี้อีก ศาลที่พิพากษาในคดีหลังจึงต้องนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ แม้ศาลล่างทั้งสองไม่นำโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ และจำเลยที่ 1 มิได้ฎีกา เมื่อความปรากฏแก่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจนำโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ได้ตาม ป.อ. มาตรา 58 วรรคแรก กรณีมิใช่เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยที่ 1 เพราะกฎหมายบังคับให้ศาลที่พิพากษาในคดีหลังบวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลังด้วย ทั้งเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒ , ๓๓ , ๘๓ , ๙๑ , ๒๘๘ , ๓๗๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗ , ๘ ทวิ , ๗๒ , ๗๒ ทวิ ริบของกลางและนำโทษจำคุกของจำเลยที่ ๑ ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๖๓๔/๒๕๔๑ ของศาลชั้นต้น มาบวกเข้ากับโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ ในคดีนี้
จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษ
จำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองแต่ไม่ได้บวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษจำคุกของจำเลยที่ ๑ ในคดีก่อน
คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องและมีคำขอให้นำโทษจำคุกของจำเลยที่ ๑ ที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษของจำเลยที่ ๑ ในคดีนี้ และจำเลยที่ ๑ ให้การรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษ เมื่อในระหว่างที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อน จำเลยที่ ๑ ได้มากระทำความผิดในคดีนี้อีก ศาลที่พิพากษาในคดีหลังจึงต้องนำโทษจำคุก ที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ แม้ศาลล่างทั้งสองไม่นำโทษจำคุกของจำเลยที่ ๑ ที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ เมื่อความปรากฏแก่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจนำโทษจำคุกของจำเลยที่ ๑ ที่รอการลงโทษไว้มาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๘ วรรคแรก และกรณีนี้มิใช่เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยที่ ๑ เพราะกฎหมายบังคับให้ศาลพิพากษาในคดีหลังบวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลังด้วย ทั้งเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้นำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๖๓๔/๒๕๔๑ ของศาลชั้นต้นมาบวกเข้ากับโทษของจำเลยที่ ๑ ในคดีนี้ รวมเป็นจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๑๐ ปี ๑๑ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๓.