แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามรายงานกระบวนพิจารณาในวันชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงข้อเดียวว่า จำเลยเช่าที่ดินพิพาทตามฟ้องโจทก์หรือไม่ส่วนคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยขัดกัน โดยจำเลยรับว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทจริง แล้วกลับให้การอีกว่า จำเลยได้ที่ดินพิพาทมาจาก พ.แล้วเข้าครอบครองอย่างเป็นเจ้าของโดยความสงบ โดยเปิดเผยเกิน 10 ปี จากคำให้การและฟ้องแย้งดังกล่าวจึงไม่ทราบได้แน่ว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์หรือของ พ.หรือของจำเลยจึงเป็นคำให้การที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่เกิดประเด็น ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงข้อเดียวว่าจำเลยเช่าที่ดินพิพาทตามฟ้องโจทก์หรือไม่อันเป็นประเด็นหลัก จึงครอบคลุมถึงประเด็นที่ว่าสัญญาเช่าปลอมหรือไม่และจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทบางส่วนโดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ด้วยแล้วจึงไม่ตรงกับรายงานการชี้สองสถานของศาลชั้นต้นว่า คำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยขัดกัน จึงไม่มีประเด็นว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทบางส่วนโดยการครอบครองปรปักษ์ อย่างไรก็ดี ศาลฎีกาเห็นว่า คำฟ้องของโจทก์บรรยายไว้ชัดแจ้งว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทโดยได้รับมรดกมาจาก ส.และ พ.ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2533 ส่วนคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยในตอนแรกจำเลยยอมรับว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทจริง ดังนั้นคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยในตอนต่อมาว่า จำเลยและบริวารปลูกบ้านเรือนอยู่ในบางส่วนของที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยเองโดยได้รับการยกให้จาก พ.และจำเลยได้ครอบครองในฐานะเจ้าของตลอดมาโดยความสงบและโดยเปิดเผยเกินกว่า 10 ปีแล้วขัดกับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยในตอนแรกที่ยอมรับว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทจริงตามฟ้อง ซึ่งก็คือยอมรับว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยชอบมาตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2533 นั่นเอง จึงเป็นคำให้การและฟ้องแย้งที่ขัดกันเองและไม่แสดงโดยชัดแจ้งว่า จำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์และไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาโดยชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง และมาตรา 172 วรรคสองจึงไม่เกิดเป็นประเด็นว่า จำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทบางส่วนโดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ ส่วนประเด็นที่ว่าสัญญาเช่าเป็นเอกสารปลอมหรือไม่ คงรวมอยู่ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ว่าจำเลยเช่าที่ดินพิพาทตามฟ้องโจทก์หรือไม่แล้ว