แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 ได้รับทุนมูลนิธิฟุลไบร์ทไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐ-อเมริกาโดยได้ทำสัญญาไว้กับโจทก์ มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งตามสัญญา-ดังกล่าวข้อ 4 ระบุว่า “ในกรณีที่ข้าพเจ้า (จำเลยที่ 1) ผิดสัญญา… หรือข้าพเจ้า(จำเลยที่ 1) ไม่กลับมารับราชการด้วยเหตุใด ๆ ก็ดี ข้าพเจ้าจะชดใช้คืนให้แก่ผู้รับสัญญา (โจทก์) ซึ่งทุนหรือเงินเดือนรวมทั้งเงินเพิ่มและหรือเงินอื่นใดทั้งสิ้นที่ข้าพเจ้าได้รับจากทางราชการในระหว่างที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาหรือฝึกอบรมนอกจากนี้ข้าพเจ้าจะจ่ายเงินเป็นเบี้ยปรับให้แก่ผู้รับสัญญาอีกจำนวนหนึ่งเท่ากับเงินที่ข้าพเจ้าจะต้องชดใช้คืน” ข้อความในสัญญาดังกล่าวหมายความว่า กรณีที่จำเลยที่ 1ผิดสัญญาจะต้องชดใช้ทุนหรือชดใช้เงินเดือนรวมทั้งเงินเพิ่มหรือเงินอื่นใดให้แก่โจทก์และเบี้ยปรับอีกหนึ่งเท่าอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เมื่อจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันชดใช้เงินเดือนที่ได้รับจากโจทก์รวมทั้งเบี้ยปรับอีกหนึ่งเท่าให้แก่โจทก์แล้ว จำเลยที่ 1ย่อมไม่มีหน้าที่ที่จะต้องชดใช้คืนทุนที่ได้ใช้จ่ายในการศึกษาให้แก่โจทก์อีก และแม้ตามระเบียบว่าด้วยการให้ข้าราชการไปศึกษาดูงานในต่างประเทศจะระบุว่าจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดชดใช้ทั้งเงินทุนและเงินเดือนและเงินอื่นใดที่ทางราชการจ่ายให้พร้อมทั้งเบี้ยปรับแก่โจทก์ มิใช่ชดใช้แต่เพียงอย่างหนึ่งอย่างใดก็ตาม แต่เมื่อมิได้ระบุความดังกล่าวไว้ในสัญญา โจทก์จะอ้างระเบียบมาบังคับให้จำเลยที่ 1ต้องรับผิดหาได้ไม่