แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หนังสือยินยอมให้ผ่อนชำระหนี้เอกสารหมาย ล.2  เป็นเพียงหนังสือของโจทก์ที่มีถึง ป. แจ้งว่าโจทก์ยอมรับการขอผ่อนชำระหนี้ต่าง ๆ ของ ถ.ที่มีต่อโจทก์เป็นรายเดือนตามที่ ป.เสนอขอผ่อนชำระหนี้แทนมา  หาใช่เป็นการทำสัญญาระหว่างโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้กับ ป.ลูกหนี้คนใหม่แต่ประการใดไม่  ทั้งหนังสือดังกล่าวก็ไม่ได้พูดถึงหนี้ของจำเลยที่มีต่อโจทก์เลย  กรณีจึงไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้  หนี้ที่จำเลยมีต่อโจทก์จึงยังคงมีอยู่เช่นเดิมไม่ระงับสิ้นไป
        หนังสือรับสภาพหนี้และรับใช้หนี้ของ ท.ที่ทำไว้แก่โจทก์ตามเอกสารหมาย ล.1  เป็นเพียงหนังสือที่ ท.ทำขึ้นฝ่ายเดียว  โดย ท.ยอมตนเข้าเป็นลูกหนี้ของโจทก์เพื่อชำระหนี้ตามเช็คที่ ท.เป็นผู้สั่งจ่ายซึ่ง ถ.และจำเลยนำมาทำสัญญาขายลดไว้แก่โจทก์  โดยโจทก์กับ ท.มิได้มีการทำสัญญากันเพื่อให้หนี้ของจำเลยที่มีต่อโจทก์ตามสัญญาขายลดเช็คระงับสิ้นไป  และมาบังคับตามหนี้ดังที่ระบุไว้ในเอกสารหมาย ล.1  แต่อย่างใด  กรณีจึงไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้จากจำเลยมาเป็น ท.  หนี้ตามสัญญาขายลดเช็คของจำเลยจึงไม่ระงับสิ้นไป
        สิทธิเรียกร้องตามสัญญาขายลดเช็คไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ  จึงต้องบังคับตาม ป.พ.พ. มาตรา 164 เดิม  คือมีอายุความ 10 ปี  นับแต่วันที่เช็คพิพาทถึงกำหนดเวลาใช้เงิน
        ฎีกาของจำเลยที่ว่า  โจทก์ฟ้องเรียกดอกเบี้ยค้างส่งเกิน 5 ปีนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค  ฟ้องโจทก์ส่วนที่เกี่ยวกับดอกเบี้ยค้างส่งจึงขาดอายุความ  โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยเอาแก่จำเลยนั้น  จำเลยมิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นโต้แย้งคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ในปัญหานี้ว่าไม่ถูกต้องอย่างไร  จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง  ขัดต่อ ป.วิ.พ. มาตรา 249วรรคหนึ่ง  ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
