แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กล่าวถึงหนังสือซื้อขายมาในฟ้อง และแนบหนังสือซื้อขายมาท้ายฟ้อง ต้องถือว่าหนังสือซื้อขายเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง โจทก์ไม่จำต้องระบุอ้างในบัญชีพยานอีก ส่วนการเสียค่าธรรมเนียมอ้างเอกสารนั้น เมื่อโจทก์ยื่นเกสารมาพร้อมกับฟ้อง ต้องสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า โจทก์อ้างเอกสารนั้น เมื่อปรากฏว่ายังไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมอ้าง ก็เรียกเสียให้ครบถ้วน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกนาคืนจากจำเลย โดยอ้างว่า ได้มอบให้จำเลยทำนาต่างดอกเบี้ยเงินกู้
จำเลยเสธว่าโจทก์ขายขาดแก่จำเลยแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับขำระหนี้เงินกู้และคืนนาให้โจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า หนังสือสัญญาซื้อขาย(ที่โจทก์ซื้อนามาจากนางปุ่น) ที่ศาลชั้นต้นหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยนั้น โจทก์ไม่ได้ระบุอ้างเป็นพยานและมิได้เสียค่าอ้างเอกสาร เป็นการฝ่าฝืน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๘๖ แล้วฟังข้อเท็จจริงตามจำเลยต่อสู้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์กล่าวถึงหนังสือซื้อขายมาในฟ้อง และแนบหนังสือซื้อขายมาท้ายฟ้อง ต้องถือว่าหนังสือซื้อขายเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง โจทก์ไม่จำต้องระบุอ้างในบัญชีพยานอีก ส่วนการเสียค่าธรรมเนียมอ้างเอกสารนั้น เมื่อโจทก์ยื่นเกสารมาพร้อมกับฟ้อง ต้องสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า โจทก์อ้างเอกสารนั้น จึงไม่นาจะยกเอาเรื่องไม่เสียค่าธรรมเนียมมาตัดไม่รับวินิจฉัยเอกสารนั้น เมื่อปรากฏว่ายังไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมอ้าง ก็เรียกเสียให้ครบถ้วน อย่างไรก็ดี ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงเชื่อตามคำพยานจำเลย
พิพากษายืน