คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยไม่ชำระเงินให้โจทก์ตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้นจึงให้ยึดทรัพย์จำเลยออกขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการขายทอดตลาดและตกลงขายให้แก่ผู้ประมูลราคาสูงสุด และผู้ซื้อได้ชำระเงินครบถ้วนแล้ว ดังนี้จำเลยจะร้องขอให้ขายใหม่โดยอ้างว่าได้ราคาน้อย ไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้ จำเลยไม่ชำระเงินให้โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงให้ยึดทรัพย์จำเลยออกขายทอดตลาด คือที่ดิน ๑ แปลง เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการขายทอดตลาดมีผู้เข้าประมูล ๔ คน เจ้าพนักงานบังคับคดีตกลงขายให้แก่ผู้ประมูลราคาสูงสุดเป็นเงิน ๔๐๐ บาท ผู้ซื้อได้ชำระเงินครบถ้วนแล้ว
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลว่า ที่ดินของจำเลยนี้ราคาถึง ๔๐๐๐ บาทเป็นอย่างต่ำ ผู้เข้าประมูลสู้ราคาเพียง ๔ คน และไม่รู้จักสภาพและราคาของที่ดิน จึงขายได้ราคาต่ำ ทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลมีคำสั่งถอนทรัพย์สินรายนี้จากการขายทอดตลาดและให้ขายทอดตลาดอีกครั้ง
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยผู้เป็นเจ้าของที่ดินเดิมแห่งทรัพย์สินมีโอกาศที่จะระวังรักษาระดับราคาแห่งทรัพย์นี้อยู่แล้ว แต่ไม่กระทำการอย่างใด จนได้มีการขายทอดตลาดไปโดยชอบตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๓๐๘ จะมารื้อร้องขอให้ขายใหม่ย่อมฟังไม่ขึ้น ให้ยกอุทธรณ์จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีนั้น ตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๓๐๘ ให้ดำเนินตามบทบัญญัติแห่ง ป.ม.แพ่งฯด้วย แต่เรื่องนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้ถอนทรัพย์จากการขายทอดตลาดและยังปรากฎจากรายงานของเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า ราคา ๔๐๐ บาทที่มีผู้สูงสุดนั้นเป็นราคาปานกลาง เจ้าพนักงานจึงได้ตกลงขายไปเช่นนั้น การขายทอดตลาดย่อมสมบูรณ์ ไม่มีทางที่จำเลยจะร้องขอให้ขายใหม่ได้
จึงพิพากษายืน

Share