แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนาอ้างเหตุเกิดเวลากลางวัน จำเลยให้การว่ากระทำโดยป้องกันตัว เมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว ก่อนพิพากษา โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องเป็นว่า จำเลยกระทำผิดเวลากลางคืน ที่ฟ้องว่ากลางวันคลาดเคลื่อนไปเพราะความบกพร่องของผู้พิมพ์และผู้ตรวจ ดังนี้ เมื่อจำเลยรับว่าได้ทำร้ายผู้ตาย ๆจริง แต่ทำโดยป้องกันแล้ว จำเลยก็ไม่ได้หลงข้อต่อสู้ ไม่มีทางทำให้จำเลยเสียเปรียบ ศาลย่อมอนุญาตให้แก้ฟ้องได้ เพราะมีเหตุสมควร
ย่อยาว
คดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะจำเลยที่ ๑ ซึ่งโจทก์ฟ้องหาว่าสมคบกันฆ่านายเนื่องตายโดยเจตนา เหตุเกิดเวลากลางวัน
จำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่า กระทำโดยป้องกันตัว
จำเลยที่ ๒ ต่อสู้อ้างฐานที่อยู่
เมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว ก่อนพิพากษาโจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า จำเลยกระทำผิดเวลากลางคืน ไม่ใช่กลางวัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์ขอแก้เวลากระทำผิดจำเลยที่ ๒ หลงข้อต่อสู้ อนุญาตไม่ได้ ต้องยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ ๑ มิได้หลงข้อต่อสู้ จึงพิจารณาฟังข้อเท็จจริงต่อไปแล้ววินิจฉัยว่า มีความผิดตามมาตรา ๒๔๙ จำคุก ๒๐ ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องขอแก้ฟ้องของโจทก์ แล้วดำเนินการพิจารณาและพิพากษาใหม่
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาในครั้งแรกว่า ศาลจะสั่งคำร้องในคำพิพากษาก็ได้ เมื่อไม่ทำให้คู่ความเสียเปรียบแก่กัน จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่
ศาลอุทธรณ์จึงไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๑ ด้วย นอกนั้นยืน
อัยการโจทก์ฝ่ายเดียวฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๑ รับว่าได้ทำร้ายผู้ตาย ๆ จริง แต่ทำโดยป้องกัน เห็นได้ว่าจำเลยที่ ๑ มิได้หลงข้อต่อสู้ ไม่มีทางทำให้จำเลยที่ ๑ เสียเปรียบ ศาลอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๖๔ และเหตุที่โจทก์ขอแก้ฟ้องในคดีนี้ก็มีเหตุสมควรตามมาตรา ๑๖๓ จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีเฉพาะจำเลยที่ ๑ ใหม่